ประกันสุนัข-แมวธุรกิจมาแรงคนไม่อยากมีลูก และเหตุผลที่ต้องทำประกันสัตว์เลี้ยง

สำหรับคนยุคปัจจุบันมีแนวโน้มแต่งงานลดลง และนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นลูกหรือเพื่อนมากขึ้น เพื่อคลายเหงา ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงโตอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นคือประกันเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ที่มาช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนความเสี่ยงซึ่งจะเกิดกับสัตว์เลี้ยงของคุณได้ เรามาดูเหตุผลกันดีกว่าว่าทำไมถึงต้องทำประกันให้สัตว์เลี้ยงด้วย

ความเสี่ยงสูง

ต้องเข้าใจก่อนว่าการหาหมอรักษาโรคเกี่ยวกับสุนัขและแมวไม่ได้หาง่ายเหมือนกับรักษาคน เพราะบางชุมชนมีสถานพยาบาลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแค่ 1 แห่ง และโรงพยาบาลของรัฐก็ไม่ได้มีคนรักษาสัตว์เลี้ยงของเราแบบเฉพาะทางด้วย ทำให้เมื่อสุนัขและแมวที่เรารักเจ็บไข้ได้ป่วยต้องหาคลินิกรักษาสัตว์เท่านั้น และค่ารักษาไม่ใช่น้อยเมื่อเทียบกับคนที่มีสิทธิประกันสังคม สิทธิบัตรทอง อีกทั้งโรคเกี่ยวกับสัตว์

เกิดขึ้นง่าย เมื่อเราให้อาหารอันไม่ถูกลักษณะของร่างกายสุนัขและแมว โดยเฉพาะบางคนเข้าใจว่าสุนัขต้องกินกระดูก ที่จริงแล้วสุนัขเลือกรับประทานกระดูกดิบเท่านั้น ถ้าเกิดทานไก่ทอดซึ่งมีกระดูกส่วนแข็งอยู่ เมื่อทานเข้าไปเศษกระดูกจะไปทิ่มแทงกระเพาะอาหาร ที่เห็นว่าสุนัขชอบแทะกระดูกเนื่องจากช่วยฝึกความแข็งแรงของกรามและฟัน ส่วนแมวก็ไม่ควรให้น้ำนมเป็นอาหารแบบที่ในการ์ตูนทำกัน เพราะร่างกายของแมวไม่สามารถย่อยสารอาหารในนมได้

คุ้มครองชีวิตของบุคคลภายนอก

สุนัขและแมววิวัฒนาการมาหลายพันปีก่อนที่จะมาอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้แบบปัจจุบัน ในอดีตสุนัขเป็นเพื่อนรู้ใจของมนุษย์มานานมีความสัมพันธ์แบบต้องพึ่งพากัน กล่าวคือ สุนัขจะเป็นผู้ช่วยของมนุษย์สำหรับการหาอาหารในป่า และแมวเป็นที่นิยมของมนุษย์สำหรับการล่าหนูเพื่อป้องกันความเสียที่จะเกิดขึ้นกับอาหารแห้งทั้งหลาย ดังนั้นด้วยสัญชาตญาณแบบเดิมที่มีความดุร้ายอยู่ในตัว เจ้าของสัตว์เลี้ยงจึงควรทำประกันสัตว์เลี้ยงเพื่อคุ้มครองความเสียหายแก่ชีวิต และร่างกายของบุคคลภายนอกที่เข้ามาในบริเวณเคหสถาน เราพบเห็นได้บ่อยว่าเจ้าของบางคนเลี้ยงสัตว์ไม่เป็น เช่น สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่ต้องการพื้นที่สำหรับการเลี้ยงบริเวณกว้าง แต่เจ้าของเลี้ยงในคอนโดเป็นพื้นที่คับแคบ สุนัขจะเกิดความเครียด และทำร้ายร่างกายของบุคคลในบริเวณใกล้เคียงได้

ช่วยติดตามสัตว์เลี้ยงหาย

ประกันสัตว์เลี้ยงบางบริษัทช่วยออกค่าใช้จ่ายในส่วนของการโฆษณาและโปสเตอร์ เมื่อน้องหมาน้องแมวของเราหนีออกจากบ้าน เนื่องจากสภาพแวดล้อมมีเสียงดังทำให้สัตว์เลี้ยงตกใจ เช่น เสียงเครื่องจักรกำลังก่อสร้าง เสียงฟ้าผ่า และเสียงประทัดในช่วงตรุษจีน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้หากเจ้าของแสดงอาการกลัวและไม่ได้ฝึกให้รับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยวิธีที่เจ้าของฝึกให้สัตว์เลี้ยงไม่กลัว คือ อย่าไปกอดหรือปลอบไม่ให้กลัว แต่ควรทำเหมือนเป็นเรื่องปกติชิวๆ เมื่อฝึกด้วยวิธีนี้ตั้งแต่เด็ก จะช่วยลดอาการกลัวได้

การทำประกันสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้สำหรับครอบครัวที่รักสุนัข-แมวเหมือนลูก ดังนั้นเจ้าของจึงควรมอบสวัสดิการให้แก่สัตว์กลุ่มนี้ ด้วยการให้สวัสดิการเหมือนกับมนุษย์

ข้อควรระวัง ดูแลสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงช่วงอากาศหนาวเย็น

ข้อควรระวัง ดูแลสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงช่วงอากาศหนาวเย็น

ช่วงฤดูหนาวในหลายท้องถิ่นอากาศหนาวเย็นเข้ากระดูกจริง ๆ ถึงเวลารื้อค้นเสื้อกันหนาวและผ้าห่มอุ่น ๆ สำหรับสมาชิกครอบครัว แม้แต่ตัวสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงขนปุยอื่น ๆ ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเผชิญกับความเย็นเช่นเดียวกัน

สัตว์เลี้ยงหลายสายพันธุ์มีขนค่อนข้างหนาดูเหมือนความปุกปุยจะช่วยปกป้องตัวจากความหนาวเย็นได้ดี แต่ความจริงไม่เป็นอย่างนั้น แม้เพียงลมหนาวพัดโชยมาหรือวันฝนตกอุณหภูมิต่ำกว่าปกติก็หนาวตัวสั่นแล้ว จำเป็นต้องพิจารณาทั้งขนาดตัวและลักษณะความยาวของขนด้วย เจ้าของควรสังเกตว่าอากาศหนาวเย็นส่งผลต่อสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ อย่างไร

สิ่งที่เห็นบ่อยคือผิวหนังมีลักษณะแห้งและคันในช่วงฤดูหนาวเช่นเดียวกับคนเรา สุนัขขนยาวที่เคยอาบน้ำบ่อยควรเลี่ยงการอาบน้ำในฤดูหนาวให้น้อยที่สุด อาจใช้น้ำยาเช็ดทำความสะอาดขนแทนและใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวปริมาณเล็กน้อยลงในอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อบำรุงเส้นขนให้ชุ่มชื้น นุ่มสลวย รักษาผิวหนังอักเสบ ลดรังแค และลดอาการคัน หรือให้กินปลาทะเลเพิ่มกรดไขมันประเภทโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงเส้นขนได้เช่นกัน

สำหรับคนที่เลี้ยงแมวหรือสุนัขไว้นอกตัวบ้านกังวลว่าสัตว์เลี้ยงจะหนาวสั่นอยู่ข้างนอก การสวมเสื้อผ้ากันหนาวเป็นทางเลือกที่ดี มองหาในร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงใกล้บ้านว่ามีชุดเสื้อกันหนาวเหมาะกับขนาดตัวสัตว์เลี้ยงหรือไม่ การสวมเสื้อกันหนาวในครั้งแรกรับรองได้ว่าต้องเจอปฏิกิริยาขัดขืนรุนแรงแม้จะฝึกกันมาดีแล้วหรือหนาวจนตัวสั่นก็ยังไม่ยอมสวมเสื้อง่าย ๆ ก่อนอื่นควรหยิบเสื้อมาให้ดูและดมจนคุ้นเคยกับกลิ่นแล้วฝึกวางบนตัว 2-3 นาทีวันละหลายครั้งแต่ยังไม่ต้องบังคับสวม รอให้ผ่านไปสองวันแล้วค่อยตะล่อมให้เริ่มรู้สึกสบายใจ จากนั้นรีบสวมจากด้านบนศีรษะอย่าให้มองเห็นต่อหน้าทำให้สวมง่ายขึ้น

แนะนำให้ฝึกสวมเสื้อกันหนาวตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข เลือกเสื้อผ้าที่สวมง่าย ไม่รัดหรือหลวมเกินไป เริ่มจากเสื้อคลุมที่เปิดหน้าท้องโล่งทำให้เกิดสะดวกไม่สะดุด ลองสวมประมาณ 1 นาทีระหว่างนั้นให้ชมเชยและให้รางวัล จากนั้นถอดเสื้อผ้าออก ฝึกฝนไปเรื่อย ๆ สัตว์เลี้ยงจะเกิดความคุ้นเคยเอง

หากต้องเดินทางไปไหนต่อไหนและนำสัตว์เลี้ยงติดตัวไปด้วย ควรทราบว่าในพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็นอุณหภูมิภายในรถยนต์อาจไม่ต่างจากตู้เย็น ควรระวังเรื่องทิ้งแมวและสุนัขไว้ในรถยนต์กลางแดดที่ร้อนจัดอย่างไร ก็ต้องระวังในขณะอุณหภูมิหนาวเย็นเช่นกัน สัตว์เลี้ยงอาจเจ็บป่วย เป็นไข้ และช็อกตายเนื่องจากภาวะอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ แมวได้ชื่อว่าทนอากาศหนาวได้ดีกว่าสุนัข แต่มักจะเกิดปัญหากรณีที่แมวคลานเข้าไปหาที่อบอุ่นในเพิงที่อันตรายและแอบซ่อนอยู่ในฝากระโปรงรถ ควรเคาะให้แมวหนีออกมาก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อความปลอดภัย

3 ข้อดีที่สำคัญของการมีสุนัข แมวในชีวิตเรา

3 ข้อดีที่สำคัญของการมีสุนัข แมวในชีวิตเรา

สุนัข แมว เป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์สำหรับทุกครอบครัว และเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับต้น ๆ ที่คนทั่วโลกเลี้ยงไว้ในบ้าน ด้วยความน่ารักของอุปนิสัยและรูปร่าง-สีสัน ที่เราเลือกได้ตามสายพันธุ์ที่ชอบ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือข้อดีที่เรานำมาเสนอ 3 ข้อ ดังนี้

1.ช่วยให้คลายเครียดและให้ความอบอุ่นใจ
ความเครียดเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้เลย เพราะเราทุกคนเชิญหน้ากับปัจจัยที่กระตุ้นให้สารแห่งความเครียดหลั่งในสมองได้ทุกวัน ไม่ว่าจะรถติดไปทำงานแทบไม่ทัน การทำงานที่เคร่งเครียดต้องทำตามเป้าหมายที่สูงขึ้น การแข่งขันในวัยเรียน การเร่งหารายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ฯลฯ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นสุนัขและแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงของตัวเองเข้ามาคลอเคลียและแสดงอาการดีใจที่เจ้านายกลับมา ย่อมต้องยิ้มออก แล้วก็รู้สึกดีที่ยังมีใครสักคนรอเราอยู่ที่บ้าน ถึงแม้จะเป็นสุนัขและแมว แต่เขาก็เปรียบเหมือนเพื่อนสนิทที่รู้ใจและไม่เคยทำร้ายเรา

2.ลดปัญหาซึมเศร้าและทำให้เห็นคุณค่าในตัวเอง
คนที่อยู่ตัวคนเดียวแล้วรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิต โดยเฉพาะหากอยู่ในช่วงชีวิตขาลง เช่น อกหัก สอบตก พ่อแม่เสียชีวิต ฯลฯ จะทำให้คิดฟุ้งซ่านได้ การมีสุนัขหรือแมวที่เลี้ยงและผูกพันกันมา จะเปรียบเหมือนยาที่ดีที่สุด เพราะเราจะรู้สึกตัวเองว่ายังมีคุณค่าในการมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลเขาเหล่านั้น หลายคนที่เคยคิดจะฆ่าตัวตาย แต่เมื่อได้คลุกคลีและดูแลสัตว์เลี้ยงเหล่านี้นาน ๆ เข้า ก็จะรู้สึกถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และหันมาทำสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเองและสังคมมากขึ้น

3.สร้างรายได้ให้คนเลี้ยง
การสร้างรายได้ที่มาจากสัตว์เลี้ยง ไม่จำเป็นต้องเป็นการเพาะพันธุ์เป็นฟาร์มสุนัขหรือฟาร์มแมวขายเท่านั้น แต่ยังหมายถึง การแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่น ด้วยการถ่ายคลิปวิดีโอที่ตัวเองเล่นกับสุนัข หรือ กิริยาท่าทางต่าง ๆ ของแมวที่มีความเป็นธรรมชาติ คนส่วนใหญ่จะชอบดูคลิปสุนัขและแมว เพราะรู้สึกผ่อนคลาย อย่าลืมว่า ไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ เขาจึงชื่นชอบที่จะดูคลิปมากกว่า จุดนี้เองจึงเป็นการสร้างรายได้ขึ้นมา หากคุณอัปโหลดคลิปขึ้นระบบ YouTube หรือ Facebook และ website ก็จะมีผู้ติดตาม และมีรายได้จากสปอนเซอร์ตามมาได้

การมี สุนัข แมว เป็นเพื่อนนั้น มีข้อดีหลายอย่าง แต่ก่อนจะเลี้ยงต้องคำนึงถึงข้อจำกัดด้วย เช่น ความพร้อมของสถานที่ เวลาที่มีให้ เงินที่พร้อมจ่ายเพื่อค่ายา อาหารและวัคซีน ฯลฯ และยังต้องดูแลไปจนหมดสิ้นอายุขัยที่ประมาณ 10 ปีด้วย หากคุณคำนึงถึงทั้งสองส่วนนี้แล้วยังยืนยันที่จะเลี้ยง เราก็เชื่อมั่นว่าคุณจะได้รับความสุขในทุก ๆ วันจากการเลี้ยงสุนัข แมวเป็นเพื่อนอย่างแน่นอน

สุนัข แมว เลี้ยงอะไรดีกว่ากัน

สุนัข แมว เลี้ยงอะไรดีกว่ากัน

สุนัข แมว… ตัวไหนน่ารักกว่ากัน คนรักสัตว์หลายคนคงจะตั้งคำถามเมื่อสองจิตสองใจจะเลี้ยงอะไรดี น้องเหมียวก็น่ารัก เจ้าตูบก็แสนรู้ ถ้าใครอยู่ในช่วงคิดไม่ตกว่าจะเลี้ยงอะไรดีแบบนี้ วันนี้เรามีคำตอบให้กับไกด์ง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลี้ยงสุนัขและแมวได้ง่ายขึ้น

ระหว่างสุนัข แมว ถ้าจะบอกตัวไหนน่ารักกว่ากันก็คงจะบอกไม่ได้ เพราะเจ้าสัตว์เลี้ยงน่ารักสองตัวนี้ต่างก็มีลักษณะ อุปนิสัยและความน่ารักที่แตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของผู้เลี้ยงอีกด้วย มาเริ่มกันที่สุนัขหรือเจ้าตูบกันเลยดีกว่า

สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการความใส่ใจจากเจ้าของมากกว่าแมว ไม่ว่าจะเป็นเวลากิน เล่นหรือนอน จึงไม่เหมาะกับเจ้าของที่อยากได้เวลาเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่ แต่เหตุผลหลักที่สุนัขต้องการความรักจากเรานั้นก็เพราะเขารักเรามากนั่นเอง ดังนั้นเมื่อเราตัดสินใจที่จะเลี้ยงน้องหมาแล้ว เราจะต้องให้เวลาเขาเหมือนกับเด็กคนหนึ่ง สุนัขมีความซื่อสัตย์และรักเจ้าของมาก ข้อดีของสุนัขคือเราสามารถฝึกฝนให้เขารอ เชื่อฟังหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างชาญฉลาดเลยล่ะ ไม่ว่าใครก็จะต้องตกหลุมรักแววตาอันอ้อนวอนและน่ารักของเจ้าตูบไปตาม ๆ กัน

แมว สำหรับน้องแมวเหมียว เป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้ต้องการเวลาและการดูแลมากเท่าสุนัข แต่ก็ขึ้นอยู่กับอุปนิสัยของน้องเหมียวแต่ละตัวว่ามีความขี้อ้อนมากน้อยแค่ไหน เพราะน้องเหมียวส่วนใหญ่มักจะมีเวลาส่วนตัว และจะเข้าหาเจ้าของจริง ๆ ก็ต่อเมื่อหิวหรือต้องการความสนใจจากเจ้าของอย่างจริงจัง แค่เรามีอาหาร น้ำและกระบะทรายไว้ น้องก็สามารถอยู่ได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะ แถมยิ่งตัวไหนขี้อ้อนก็จะคลอเคลีย และแสดงความเป็นเจ้าของอย่างแรงกล้าเลยล่ะ แต่ถ้าเลี้ยงแมวก็จะมีสิ่งหนึ่งที่อาจทำให้ผู้เลี้ยงตกใจ นั่นก็คือการแสดงความรักต่อเจ้าของและความสามารถตัวเองด้วยการนำสัตว์ต่าง ๆ ที่น้องล่ามาฝาก ไม่ว่าจะเป็นนก หนู จิ้งจกหรือสัตว์อื่น ๆ มาวางไว้ตามที่นอนหมอนมุ้ง พรม ห้องน้ำหรืออื่น ๆ แต่ด้วยความสันโดษของน้องแมว เราจึงต้องคอยหมั่นสังเกตอาการและโรคของเขาอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นที่สังเกตได้ยากนั่นเอง

เหตุผลเหล่านี้จะช่วยผู้ที่กำลังวางแผนอยากจะมีสัตว์เลี้ยงอย่าง สุนัข แมว สักตัวในบ้าน สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเพื่อนที่กำลังเลี้ยงสัตว์ ผู้ขายสัตว์เลี้ยง ข้อมูลหรือวิดีโอเพิ่มเติมต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลี้ยงสัตว์ก็คือความพร้อม เพื่อที่เราจะได้เลี้ยงเขาด้วยความรักและความใส่ใจเหมือนครอบครัวเดียวกัน

เริ่มต้นเลี้ยงสุนัขกับแมวอย่างไร ให้อยู่ด้วยกันได้

เริ่มต้นเลี้ยงสุนัขกับแมวอย่างไร ให้อยู่ด้วยกันได้

การเลี้ยงเจ้าตูบกับเจ้าเหมียวให้อยู่ด้วยกันนั้น เป็นเรื่องที่น่าหนักใจให้กับเจ้าของอยู่ไม่น้อย เพราะสัตว์ทั้ง 2 ประเภทนี้เจอกันเมื่อไหร่ต้องปะทะกันทุกที แต่ถ้าคุณตกลงแล้วว่าจะเลี้ยงทั้งสุนัขและแมวด้วยกันให้ได้ เรามาหาวิธีที่จะช่วยให้เจ้าขนปุยทั้งสองเข้ากันได้ในบ้านหลังเดียวกัน จะดีกว่า

วิธีช่วยให้สุนัขกับแมวเข้ากันได้

แยกกันอยู่ก่อน – ก่อนอื่นนั้นให้คุณเตรียมห้องแยกไว้สำหรับเจ้าเหมียวและเจ้าตูบเพื่อไม่ให้ทั้งสองปะทะกัน โดยมีประตูเป็นตัวกั้น ซึ่งสุนัขและแมวยังคงได้กลิ่นกันและกัน เพื่อสร้างความคุ้นเคยผ่านกลิ่นกันได้

สลับห้องให้เจ้าเหมียวและเจ้าตูบ – เมื่อผ่านได้สักสามวันแล้ว ให้คุณลองสลับที่อยู่ของสัตว์ทั้งสอง เช่น หากคุณให้เจ้าเหมียวนอนในห้องนอน และให้เจ้าตูบนอนในห้องนั่งเล่น ก็ลองสลับกันเพื่อสร้างความคุ้นเคยผ่านกลิ่นกันให้ได้มากที่สุด

จัดเวลาให้พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกัน – เมื่อสุนัขและแมวทั้งสองได้เรียนรู้กลิ่นซึ่งกันและกันแล้ว สิ่งที่คุณจะต้องทำต่อไปคือการสร้างความคุ้นเคยด้วยการให้เวลาพวกเขาได้เรียนรู้กัน โดยระวังไม่ให้สุนัขไล่หรือเห่าใส่แมว และให้คุณมั่นใจก่อนว่าสุนัขเชื่อฟังคำสั่งของคุณในตอนที่ปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน

ให้รางวัลสุนัขเมื่อมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับแมว – สุนัขเป็นสัตว์ที่ชอบรางวัล ฉะนั้นหากให้รางวัลกับสุนัขเมื่อมันมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับแมว ก็จะทำให้สุนัขปฏิบัติได้ดีต่อไปเรื่อย ๆ แต่อย่าลืมว่าให้คุณแสดงความรักให้กับสัตว์ทั้งสองเท่า ๆ กัน เพราะไม่อย่างนั้นจะมีตัวใดตัวหนึ่งอิจฉาเป็นแน่

จัดหาสถานที่ให้แมว ที่สุนัขเข้าไปไม่ถึง – แมวเป็นสัตว์ที่ชอบความสงบ ชอบมีพื้นที่ส่วนตัว คุณควรจัดหาพื้นที่นี้ให้กับแมวโดยเฉพาะ เพราะจะทำให้เจ้าเหมียวได้ใช้เวลาส่วนตัวในการผ่อนคลายและเพื่อเป็นการไม่ให้สุนัขเข้าไปรบกวนเจ้าเหมียวนั่นเอง

ค่อยเป็นค่อยไปแบบไม่ใจร้อน – เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนมีความคาดหวังสูงที่จะให้สัตว์ทั้งสองเข้ากันได้ดีในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ความจริงนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร โดยขึ้นอยู่กับการปรับตัวของสัตว์ด้วย ฉะนั้นหากคุณอยากให้เจ้าเหมียวและเจ้าตูบเข้ากันได้ดีและอยู่ร่วมชายคาด้วยกันได้ ก็ให้ค่อยเป็นค่อยไป อย่ารีบร้อนและคาดหวังมากเกินไป

แม้ว่าการทำให้สุนัขและแมวอยู่ด้วยกันนั้น จะดูเป็นเรื่องยากอยู่สักหน่อย เพราะสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้เสมอไป และเราขอเป็นกำลังใจให้คุณที่เป็นเจ้าของน้องเหมียวและน้องตูบ ประสบความสำเร็จในการสานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสัตว์เลี้ยงทั้งสองชนิดนี้ได้ในที่สุด

วิธีช่วยให้สุนัขกับแมวเข้ากันได้

การดูแลสุนัขและแมวหลังคลอด เลี้ยงดูอย่างไร

การดูแลสุนัขและแมวหลังคลอด เลี้ยงดูอย่างไร

สุนัขและแมว เป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้กับคนครอบครัวส่วนใหญ่ เป็นเพื่อนเล่นแก้เหงาและคลายเครียดได้ดี แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าเมื่อสัตว์เลี้ยงทั้งสองชนิดนี้ออกลูก แล้วจะต้องดูแลตัวแม่และลูกที่กำลังอ่อนแออย่างไรบ้าง เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกัน ดังนี้

การเลี้ยงดูสุนัขและแมวหลังคลอด

ส่วนใหญ่ลูกสุนัขและแมวจะเสียชีวิตหลังคลอดได้ง่าย จากการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีอุณหภูมิหนาวเย็นกว่าในตัวแม่ เนื่องจากยังมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ก็จะติดเชื้อและเสียชีวิตได้ง่าย ดังนั้นหลังจากการคลอดแล้ว จึงต้องดูแลให้ลูกสุนัขและแมวอยู่กับตัวแม่ตลอดเวลา เพื่อกินน้ำนมเหลืองจากเต้าอย่างน้อย 3 วัน เพื่อให้ได้รับภูมิคุ้มกันอย่างเต็มที่ผ่านทางน้ำนม สำหรับแม่สุนัขและแมวที่คลอดด้วยวิธีการผ่าตัด มักจะมีน้ำนมน้อยกว่าปกติ อาจต้องซื้อน้ำนมเหลืองที่เรียกว่า นมคอลอสตุ้ม สำหรับชงให้ลูกสัตว์ทานเพิ่มด้วย

นอกจากนี้ ควรระวังไม่ให้แม่สัตว์นอนทับลูกตัวเอง เจ้าของควรช่วยจัดที่นอนให้กว้างเพียงพอ เสริมผ้าขนหนูเพื่อให้มีความอบอุ่นทั่วถึง นอกจากนี้ โดยธรรมชาติลูกสุนัขและแมวจะได้รับการดูแลจากแม่ โดยเฉพาะเมื่อมีการดูดนมแล้ว ตัวแม่จะเลียที่อวัยวะเพศและก้นลูก เพื่อกระตุ้นให้ขับถ่ายออก แต่หากเจ้าของสังเกตดูไม่เห็นพฤติกรรมดังกล่าว หรือเป็นสัตว์กำพร้า ก็ต้องใช้สำลีชุบน้ำอุ่น ถูที่บริเวณก้นและอวัยวะเพศลูกสัตว์เพื่อกระตุ้นให้ขับถ่าย และทำทุกครั้งเป็นประจำหลังให้นม

ลูกสัตว์หลังคลอดจะดูดนมบ่อยทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าของควรชั่งน้ำหนักแล้วบันทึกไว้ โดยเฉลี่ยแล้วน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นวันละ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อโตอายุได้ประมาณ 4 สัปดาห์ ลูกสุนัขและแมวจะสามารถกินอาหารเปียกบนจานได้ คู่กับการดูดนม ซึ่งเจ้าของต้องดูแลเลือกสูตรอาหารให้เหมาะสมกับช่วงอายุด้วย

สำหรับการดูแลแม่สุนัขและแมวหลังการคลอด ให้สังเกตอาการผิดปกติว่ามีสารเหลวออกมาจากช่องคลอดหรือไม่ ถ้ามีสีแดงหยดออกมาเล็กน้อยเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ที่เต้านมไม่ควรมีอาการเจ็บ จนไม่ยอมให้ลูกดูดนม หรือมีน้ำนมแต่เป็นสีเขียวเหนียวหนืด ซึ่งจะทำให้ลูกสัตว์ท้องเสีย ติดเชื้อตายได้ และที่ต้องสังเกตอีกประการหนึ่ง คือ หากแม่สุนัขและแมวมีอาการซึม มีไข้ตัวสั่น หรือไม่สนใจลูกเท่าที่ควร ก็หมายถึงอาจมีความผิดปกติหรือเจ็บป่วยภายใน ที่ต้องรีบตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด โดยปรึกษากับสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด

การดูแลสุนัขและแมวในช่วงหลังคลอด เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องศึกษาข้อมูลเตรียมไว้ก่อน เจ้าของอาจต้องลางานเพื่อช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างน้อยประมาณ 3 ถึง 5 วัน ด้วย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านใส่ใจคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อลดความเครียดและลดความเสี่ยงการเสียชีวิตทั้งแม่และลูกสุนัข แมว

การเลี้ยงดูสุนัขและแมวหลังคลอด

การให้อาหารแมวกับสุนัขแตกต่างกันไหม

การให้อาหารแมวกับสุนัขแตกต่างกันไหม

คนที่รักสัตว์และอยากเลี้ยงสุนัขและแมวรวมกันในบ้าน นอกจากต้องจัดระเบียบพื้นที่อยู่อาศัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อถึงกันได้แล้ว ยังต้องใส่ใจอาหารที่ให้แก่สุนัขและแมวด้วย ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่าสุนัขและแมวสามารถกินอาหารประเภทเดียวกันได้หรือไม่ เราจึงได้รวมข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกันดังนี้

อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและแมว

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและแมวมีความแตกต่างกัน เพราะระบบของร่างกายสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ถูกสร้างมาให้มีความแตกต่าง สุนัขจัดอยู่ในประเภทที่กินและย่อยได้ทั้งเนื้อสัตว์และพืชผัก อย่างที่เราเห็นว่าบางครั้งสุนัขก็กินหญ้า แต่แมวจะเป็นสัตว์ที่กินเฉพาะเนื้อเท่านั้น ทำให้ระบบการดูดซึมวิตามิน เผาผลาญและย่อยอาหารแตกต่างกันไป

หากนำอาหารสุนัขซึ่งโดยทั่วไปจะมีราคาถูกกว่ามาให้แมวรับประทาน จะเกิดปัญหาต่อสุขภาพที่สำคัญ ได้แก่

แมวจะขาดวิตามินเอจากอาหาร เนื่องจากสุนัขมีการสังเคราะห์วิตามินเอได้เองจึงไม่ค่อยมีการผสมในอาหารเม็ด แมวที่กินอาหารสุนัขเป็นประจำจะทำให้มีปัญหาเส้นขนที่หยาบกร้าน ดวงตาไม่สามารถมองเห็นได้ดีนักในความมืด

นอกจากนี้ ในอาหารสุนัขยังขาดกรดอะมิโนทอรีน เนื่องจากสุนัขจะสามารถสังเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง หากให้แมวกินบ่อยๆ จะเกิดภาวะขาดกรดอะมิโนชนิดนี้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ ทำให้แมวเสี่ยงต่อการเป็นหัวใจวายและตายได้ ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลให้แมวเกิดภาวะ feline central retinal degeneration (CRD) ซึ่งเป็นโรคของจอประสาทตา ทำให้ตาบอดได้ด้วย

การให้แมวซึ่งเป็นสัตว์กินเนื้อ กินแต่อาหารสุนัข จะทำให้ได้เปอร์เซ็นต์สัดส่วนของโปรตีนที่น้อยกว่าปกติ จึงทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ภูมิต้านทานต่ำ ป่วยติดเชื้อเป็นโรคพยาธิต่าง ๆ ทำให้มีอายุสั้นด้วย

ดังนั้นหาก เลี้ยงสุนัข และแมวร่วมกัน ก็จำเป็นจะต้องแยกประเภทอาหาร ซื้ออาหารสุนัขและอาหารแมวที่เหมาะกับช่วงวัยของสัตว์เลี้ยง ถึงจะทำให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และเสริมสร้างพัฒนาการตามวัย

สำหรับสุนัขนั้น สามารถที่จะเสริมอาหารเม็ดด้วยผักผลไม้ได้ เนื่องจากระบบการย่อยอาหารของสุนัขจะมีเอนไซม์ทำหน้าที่ย่อยสารอาหารและดูดซึมนำไปใช้ได้

อย่างไรก็ตาม มีอาหารแต่ที่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น กาแฟ โกโก้ช็อกโกแลต ซึ่งมักเป็นส่วนผสมในขนมเค้ก คุกกี้ ขนมปัง ซึ่งจะมีคาเฟอีนอยู่เป็นส่วนประกอบ ทำให้เกิดการกระตุ้นระบบประสาทและเป็นผลเสียต่อระบบไตของสุนัข ทำให้อายุสั้นได้

จะเห็นได้ว่า อาหารสุนัขและแมวมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน การให้อาหารที่ไม่เหมาะสม อาจจะทำให้สัตว์ป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้ ผู้ที่สนใจเลี้ยงสุนัขและแมวจึงต้องศึกษาให้ดีเรื่องของการดูแลสุขภาพ การฉีดวัคซีน รวมถึงการเลือกอาหารที่เหมาะสมกับแต่ละสายพันธุ์ด้วย

อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและแมว

แปลกไหม ทำไมคนเลี้ยงสุนัขและแมวมีบุคลิกตรงกับสัตว์เลี้ยง

คนเลี้ยงสุนัขและแมวมักจะมีพฤติกรรมแตกต่างกัน สังเกตให้ดีจะรู้ได้ว่าคนไหนเลี้ยงน้องหมา คนไหนเลี้ยงน้องแมว เรื่องนี้นักจิตวิทยาเฉลยว่าไม่ใช่เรื่องแปลก การเลือกประเภทสัตว์เลี้ยงมักจะเข้ากับพฤติกรรมส่วนตัวของเจ้าของ คนเลี้ยงปลาเป็นคนมีความสุขที่สุด คนเลี้ยงสุนัขมักจะเป็นคนมีอารมณ์ขัน เป็นกันเองและเข้ากับคนง่าย คนเลี้ยงแมวมีโลกส่วนตัวและอารมณ์อ่อนไหว ส่วนคนเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานเป็นคนรักอิสระ นั่นเป็นความเห็นจากการประเมินตนเองแต่สะท้อนให้เห็นบุคลิกที่แตกต่างกัน พูดได้ว่าสัตว์เลี้ยงเป็นภาพสะท้อนของตัวเราเอง

บุคลิกภาพของสุนัขแต่ละสายพันธุ์เหมือนกันไหม ?

หลายคนตั้งข้อสงสัยเรื่องนี้ ถ้าเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ต่างกันจะมีบุคลิกภาพต่างกันหรือไม่ แต่ก็มีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับความแตกต่างทางบุคลิกภาพของคนเลี้ยงสัตว์ที่ค่อนข้างสอดคล้องกัน สามารถทำนายได้ว่าใครเป็นเจ้าของสุนัขหรือแมว คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงสุนัขมากกว่าแมว แต่หลายคนก็รักทั้งสุนัขและแมว เพื่อให้การแยกความแตกต่างชัดเจน จึงได้มีการสอบถามคนที่เลี้ยงทั้งสุนัขและแมว เช่นเดียวกับคนที่ไม่ชอบสุนัขและแมว

บุคลิกภาพของคนแมวโดยเฉลี่ยเป็นคนขี้อาย โดดเดี่ยว ไม่ยึดติดกับอะไรจริงจัง มีความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์อ่อนไหว ขณะเดียวกันก็ชอบผจญภัย เป็นอิสระและพึ่งพาตนเองได้ มีแนวโน้มที่จะอยู่คนเดียวและพักอาศัยในอพาร์ทเม้นท์มากกว่าคนเลี้ยงสุนัข ผู้หญิงโสดคือบุคคลที่น่าจะเลี้ยงแมวมากที่สุด แต่ก็ขี้กังวลและเป็นโรคประสาทมากกว่าคนเลี้ยงสุนัข อาจเป็นเพราะแมวก็มีนิสัยขี้ระแวงเหมือนกัน จึงไม่ทำให้เจ้าของรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยเหมือนกับการมีสุนัขอยู่เป็นเพื่อน

ในทางกลับกันคนเลี้ยงสุนัขจะมีเหตุผล อบอุ่น เป็นกันเอง ชอบเข้าสังคม ชอบแสดงออก เจ้าของสุนัขมีแนวโน้มที่จะเป็นคนเปิดเผย เข้ากับคนง่าย และเป็นมิตรมากกว่าคนเลี้ยงแมว และทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัดเหมือนกับนิสัยของเจ้าตูบ ชอบปลอดภัย และไม่ชอบความเสี่ยง เจ้าของสุนัขมีแนวโน้มที่จะอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทมากกว่า ส่วนคนเลี้ยงแมวจะอาศัยอยู่ในเมืองซึ่งก็สะดวกดีเพราะการเลี้ยงแมวใช้พื้นที่ไม่มาก อยู่ในหอพักเล็ก ๆ ก็เลี้ยงแมวได้

คนเลี้ยงสุนัขมักจะเป็นพวกอนุรักษ์นิยมและมักจะปฏิบัติตามกฎมากกว่าคนเลี้ยงแมว ถ้าเปรียบเทียบกันในแง่การเมืองแล้ว เจ้าของสุนัขมักจะโหวตให้พรรครีพับลิกัน มีนิสัยชอบทำตามกระแส เชื่อฟังและทำตาม ในขณะที่เจ้าของแมวนิยมเลือกพรรคเดโมแครต มีความคิดเป็นของตัวเองและมีแนวโน้มที่จะไม่ลงรอยกับคนอื่น ขณะเดียวกันก็ใจกว้างมากด้วย มีความคิดเปิดกว้าง สนใจสิ่งแปลกใหม่เสมอ คนรักแมวมีความรู้สึกไวและอ่อนไหวส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง แตกต่างจากคนรักสุนัขที่จะเป็นผู้ชายมากกว่า

ความชอบก็เป็นอีกเรื่องที่แตกต่างกัน ตัวอย่างของแฟนคลับวงเดอะบีทเทิล คนรักสุนัขชอบพอล แมคคาร์นีย์ คนรักแมวชอบจอร์จ แฮร์ริสัน นอกจากนั้นยังมีอารมณ์ขันแตกต่างกันด้วย คนรักแมวชอบเรื่องขำขันที่สร้างสรรค์ เพลิดเพลินกับการเล่นคำที่เต็มไปด้วยไหวพริบ ส่วนคนเลี้ยงสุนัขชอบตลกร้ายมากกว่า คนเลี้ยงสุนัขมักจะทนแมวได้แต่คนรักแมวมักจะไม่ชอบสุนัข แล้วตัวคุณเองละเป็นคนแบบไหน

บุคลิกภาพของสุนัขแต่ละสายพันธุ์เหมือนกันไหม

แนะนำสุนัข แมว ยอดนิยมของคนไทยอย่างละ 3 สายพันธุ์

สุนัข แมว คือสัตว์เลี้ยงยอดนิยมสำหรับคนไทยมาช้านาน เพราะสัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ชนิดนี้ล้วนเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถหามาเลี้ยงได้ง่าย การนำมาเลี้ยงยังไม่ข้อกำหนดทางกฎหมายใด ๆ ที่ยุ่งยาก ทำให้มีความแพร่หลายในการเพาะเลี้ยงอย่างกว้างขวาง เกือบทุก ๆ บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงก็ล้วนเลือก สุนัข แมว เป็นสัตว์เลี้ยงด้วยกันทั้งนั้น

อย่างไรก็ตามการที่จะนำสุนัข แมว มาเลี้ยงนั้นจำเป็นต้องรู้จักสายพันธุ์ของมันให้ดี เพราะ สุนัข แมว แต่ละสายพันธ์ล้วนมีลักษณะนิสัยพื้นฐานที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงจะขอแนะนำสุนัข แมว แต่ละสายพันธุ์ที่คนไทยนิยมนำมาเลี้ยงตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

สุนัข

พันธุ์ชิวาวา เป็นสุนัขขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายของคนไทย เพราะด้วยขนาดกะทัดรัดที่ผู้เป็นเจ้าของสามารถพาไปที่ใด ๆ ก็ได้ตามต้องการแล้ว ยังมีนิสัยขี้อ้อน จนผู้เป็นเจ้าของสุนัขมักใจอ่อนไม่สามารถหยุดเล่นกับมันได้เลย แต่มีปัญหาที่ชอบเห่าเสียงดังจนอาจน่ารำคาญเกินไป

พันธุ์ปอมเมอเรเนียน สุนัขพันธุ์เล็กยอดนิยมอีกหนึ่งสายพันธุ์ ด้วยขนฟู ๆ ที่ตัดแต่งทรงได้หลากหลาย ถือเป็นหมาที่กระตือรือร้นที่จะเล่นอยู่เสมอ แต่ก็มีปัญหาที่ชอบเห่ามากไปหน่อย

พันธุ์บีเกิล สุนัขสายพันธุ์จากประเทศอังกฤษนี้ ถือเป็นสุนัขสำหรับล่าเนื้อที่มีประสาทสัมผัสไวมาก สามารถช่วยเจ้าของสุนัขในการเตือนภัย แต่ในกรณีที่ใช้เฝ้าบ้านอาจต้องระมัดระวังบ้างเพราะเข้ากับคนได้ง่ายเกินไปพันธุ์เปอร์เซีย แมวขนสวยที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เลี้ยงแมว

แมว

พันธุ์เปอร์เซีย แมวขนสวยที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เลี้ยงแมวเป็นอย่างมาก เพราะต่างหลงใหลในขนยาว ๆ นุ่ม ๆ ของมัน นิสัยขี้เล่นไม่ดุร้ายเท่าใดนัก แต่ความที่เป็นสายพันธุ์ที่มีขนยาวจึงทำให้ยากต่อการดูแลอยู่สักหน่อย

พันธุ์อเมริกันชอร์ตแฮร์ เป็นแมวขนสวยที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าของแมวไม่น้อย เป็นแมวสายพันธุ์ที่ชอบเคลื่อนที่ตลอดเวลา กระตือรือร้นที่จะเล่น มีความฉลาดและฝึกสอนได้ง่าย

พันธุ์วิเชียรมาศ เป็นแมวสายพันธุ์ไทยที่ได้ชื่อว่าการเลี้ยงเอาไว้จะสร้างมงคลให้กับผู้เป็นเจ้าของ เป็นแมวที่มีความปราดเปรียว ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง แต่ไม่ค่อยร้องกวนให้เจ้าของรำคาญใจแต่อย่างใด และด้วยความเป็นสายพันธุ์ไทย จึงทำให้การดูแลโดยผู้เลี้ยงแมวชาวไทยทำได้ง่ายมากกว่าสายพันธุ์ต่างชาติอื่น ๆ

เมื่อทราบนิสัยของสุนัข แมว แต่ละสายพันธุ์แล้ว เชื่อได้ว่าจะช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้อย่างถูกต้อง ทำให้สุนัข แมว มีนิสัยที่ร่าเริง สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี

พฤติกรรมแมวก้าวร้าวฉี่เรี่ยราดไปทั่ว แก้ไขอย่างไร

คนเลี้ยงแมวจำนวนไม่น้อยระอากับพฤติกรรมแมวตัวผู้ที่มักจะพ่นฉี่แสดงอาณาเขตไปทั่ว เมื่อมีแมวตัวอื่นเข้ามาล้ำเขตที่จองไว้จะแสดงอาการดุร้ายโจมตี พบปัญหานี้ต้องรีบแก้ทันที หากปล่อยไว้ยิ่งบานปลาย

โดยปกติเราเข้าใจว่าแมวเป็นสัตว์รักสันโดษและเฉยเมยไม่ค่อยแสดงอารมณ์ให้เห็นเหมือนสุนัข พฤติกรรมฉี่ไปทั่วคล้ายกับการอิจฉาแบบนี้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็ยังอธิบายไม่ได้ว่าแมวมีความรู้สึกอย่างไร เพราะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ค่อนข้างเดาใจยาก เหตุผลแท้จริงของการฉี่จองเขตแดนน่าจะเป็นเรื่องสัญชาตญาณการเอาตัวรอดมากกว่า เป็นธรรมชาติของสัตว์ที่จะต้องแข่งขันแย่งชิงพื้นที่อยู่ อาหาร และน้ำ หากเลี้ยงแมวหลายตัวในบ้าน โดยเฉพาะตัวผู้ที่ยังไม่ทำหมันจะรู้สึกว่ามีการแข่งขันกันเอง นั่นคือสาเหตุที่เจ้าเหมียวจะฝากรอยฉี่ทิ้งกลิ่นเหม็นไปทั่วบ้าน

นิสัยแมวก้าวร้าวที่ชอบฉี่ไม่เป็นที่

แมวมักจะพ่นสเปรย์ฉี่ตามกำแพงหรือพื้น เหนือชามอาหาร หรือสถานที่หลับนอนสุดโปรด อธิบายได้ว่าเป็นการปกป้องสิ่งของจำเป็นในชีวิต หลายตัวมีพฤติกรรมก้าวร้าว คำรามข่มขู่ หากมองว่าตัวไหนเป็นคู่แข่งจะตบแย่งชิงอาณาเขตกัน ส่วนตัวที่โดนขู่ โดนตบทำร้ายแรง ๆ จะมีพฤติกรรมแตกต่างกันไป บางตัวไม่กินอาหารและซ่อนตัวตลอดเวลา บางตัวจะปีนป่ายไปทั่วเพื่อเรียกร้องความสนใจ ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับแมวที่เลี้ยงไว้ในบ้านหลายตัว

บางกรณีไม่ได้เกิดจากแมวด้วยกัน แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในบ้าน มักจะเกิดขึ้นหลังการตกแต่งบ้านแล้วเจ้าเหมียวฉี่ใส่เฟอร์นิเจอร์และของใช้ใหม่ หลังเปลี่ยนกระบะทรายแมว หรือกลับจากไปหาสัตว์แพทย์ แมวจะแสดงอาณาเขตทันทีที่เพิ่งมีเด็กทารกเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ แขกมาเยี่ยมเยียน หรือแมวจรเข้ามาสำรวจบ้าน เจ้าเหมียวจะรู้สึกอึดอัด เครียด จะเริ่มพ่นแสดงอาณาเขตได้เหมือนกัน ต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าเกิดจากสิ่งใด เมื่อจับทางได้แล้วก็จะแก้ปัญหาการพ่นฉี่ได้ง่ายขึ้น

ในกรณีที่ต้องการนำสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้าบ้าน แนะนำว่าควรแยกเลี้ยงคนละห้องซักระยะหนึ่ง จัดหาที่อยู่ที่นอน อาหาร ของเล่นและอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับเจ้าตัวใหม่โดยเฉพาะ ไม่ให้แมวเจ้าถิ่นรู้สึกว่าถูกคุกคาม จนกระทั่งรู้สึกว่าคุ้นเคยกับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่แล้ว ค่อยแบ่งปันกันใช้อุปกรณ์และเลี้ยงร่วมห้องเดียวกัน หมั่นแสดงความรักและความใส่ใจเป็นพิเศษ ทำให้พฤติกรรมการหวงแหนจนต้องพ่นฉี่ไปทั่วลดลงได้เช่นเดียวกันนิสัยแมวก้าวร้าวที่ชอบฉี่ไม่เป็นที่

นิสัยฉี่เรี่ยราดเป็นปัญหากวนใจที่ไม่ควรละเลย เพราะความก้าวร้าวจากสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งอาจมีผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงทั้งหมดในบ้าน อย่าปล่อยให้แมวในบ้านต่อสู้กันเองจะทำให้ปัญหายิ่งแย่ลง พยายามแยกออกจากกันด้วยน้ำหรือเป่านกหวีดเพื่อเบนความสนใจ ไม่ควรลงโทษรุนแรงเพราะจะทำให้แมวก้าวร้าวมากขึ้น พยายามทุกทางแล้วยังไม่ดีขึ้นควรมองหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

หากตรวจสอบและแก้ปัญหาแล้ว แมวยังฉี่สะเปะสะปะ อาจทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว หรือแอบซ่อนตัวบ่อย ๆ อาจไม่ได้เป็นผลมาจากการแข่งขันกับตัวอื่น ควรพาไปหาสัตว์แพทย์เพื่อตรวจสอบว่าเกิดจากความเจ็บป่วยหรือไม่ อาจเกิดขึ้นได้จากปัญหาสุขภาพร่างกายก็เป็นได้