วิธีดูแลสุนัขและแมว ให้ปราศจากโรคภัย

วิธีดูแลสุนัขและแมว ให้ปราศจากโรคภัย

การดูแลสุนัขและแมวเพื่อป้องกันโรคภัยมีหลายขั้นตอนที่สำคัญ นี่คือบางวิธีที่สามารถทำเพื่อให้สุนัขและแมวของคุณมีสุขภาพดีแข็งแรงและป้องกันโรคภัย

การให้อาหารที่เหมาะสม : ให้อาหารที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมตามอายุและน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง รวมถึงการเลือกอาหารที่มีคุณภาพดี และเพื่อง่ายต่อการย่อย

การออกกำลังกาย : สร้างนโยบายการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและแมว เพื่อให้พวกเขามีสุขภาพที่ดี และลดความเสี่ยงต่อโรคภัย

การตรวจสุขภาพเป็นระยะ : นำสุนัขและแมวไปพบสัตวแพทย์เป็นระยะเพื่อตรวจสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆตามกำหนด

การควบคุมพยาธิ : การให้ยาตัวป้องกันเชื้อโรค เช่น กำจัดพยาธิที่เป็นพาหะสำหรับโรคต่างๆ เช่น เห็บหมัด หนอนใน ฯลฯ

การควบคุมสิ่งแวดล้อม : ให้สภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัย รวมถึงการควบคุมการแพร่เชื้อโรคจากสิ่งแวดล้อม เช่น การล้างจานน้ำ การทำความสะอาดที่เรือนและสิ่งของที่สัมผัสได้

การติดตามและรับรู้สัญญาณของโรค : ระมัดระวังกับอาการที่อาจเป็นสัญญาณของโรค เช่น ไข้ อาเจียน หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

การฆ่าเชื้อ : รักษาระบบทางการฆ่าเชื้อเรียบร้อย และรักษาความสะอาดโดยการล้างมือก่อนและหลังจากการจัดการกับสัตว์เลี้ยง

การสงวนพื้นที่ : ทำความสะอาดบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค

การดูแลสุนัขและแมวอย่างรอบด้านจะช่วยลดโอกาสในการป่วย และทำให้พวกเขามีชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่าลืมตรวจสอบคำแนะนำจากสัตวแพทย์ของคุณเพื่อรับข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและแมวของคุณด้วยนะคะ

เปลี่ยนด่วน! ความเชื่อแบบนี้ส่งผลร้ายต่อ สุนัข แมว

ใครเป็นทาส สุนัข แมว มารวมกันตรงนี้ด่วน! ก่อนที่ความเชื่อที่สืบทอดกันมาจะส่งผลร้ายต่อสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักของเรา ก่อนที่จะไปดุกันว่ามีอะไรบ้าง เราอยากบอกคุณว่าการเลี้ยงสัตว์เหล่านี้จะต้องใส่ใจเขามาก ๆ โดยเฉพาะความรักถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ทำให้พวกคุณละเลย หันมาใส่ใจพวกเขาให้มากขึ้นโดยเริ่มจากตรงนี้เลย

  • เข้าใจผิดสุด ๆ ที่คิดว่าการใช้ยาม่วง (เจนเชี่ยนไวโอเลต) เป็นยาวิเศษที่สามารถรักษาได้ทุกอย่าง แน่นอนสรรพคุณของยาชนิดนี้ช่วยรักษาเชื้อราและแบคทีเรียได้ดี แต่ใช้ได้เฉพาะคนเท่านั้นกับ สุนัข แมว ไม่ควรอย่างยิ่ง ด้วยความที่ตัวยามีสีม่วงเมื่อทาลงไปยังผิวหนังหรือขนของพวกมันจะติดทนนานมาก ๆ เปลี่ยนขนสีขาวเป็นสีม่วงไปเลย ที่สำคัญเมื่อต้องไปหาหมอการตรวจเพื่อรักษาผิวหนังก็จะยากมากยิ่งขึ้น เพราะมองไม่เห็นจุดที่มีเชื้อรานั้นเอง

การรักษาที่ถูกต้อง : ควรใช้เป็นยาสำหรับ สุนัข แมว เท่านั้น

  • เมื่อ สุนัข แมว เกิดไม่สบายขึ้นมาวินิจฉัยโรคเองและซื้อมาให้ทาน เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้พวกมันอาการแย่ลง 

การรักษาที่ถูกต้อง : แน่นอนว่าคุณทำเช่นนั้นเพราะห่วงสัตว์เลี้ยง แต่ก็แอบกังวลเรืองค่าใช้จ่าย สุดท้ายเมื่ออาการทรุด คุณก็ต้องพาพวกมันไปหาหมออยู่ดี ทางที่ดีควรพามาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวิเคราะห์โรคที่ถูกต้อง

  • ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ เป็นสิ่งที่ผิดเช่นกันและจะทำให้พวกมันหูอับชื้นมากขึ้น หากนำน้ำเกลือไปหยอดหรือเช็ด เพราะด้วยลักษณะช่องหูเป็นรูปตัว L ของเหลวหรือน้ำที่หยอดลงไปจะไม่สามารถออกมาได้นั้นเอง

การรักษาที่ถูกต้อง :  ควรใช้ยาเฉพาะช่องหูโดยเฉพาะ

  • แชมพูหรือสบู่สุนัขและแมวใช้ร่วมกับคนได้ เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดอย่างแรง แม้คุณจะบอกว่าใช้สบู่เด็กสูตรอ่อนโยนก็ไม่ควรเช่นกัน เพราะกรด ด่างไม่เท่ากัน

การรักษาที่ถูกต้อง : เลือกใช้แชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยงดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดโรคผิวหนัง

  • โรคพิษสุนัขมีแค่สุนัขเท่านั้นตามชื่อ จริง ๆ แล้วสามารถเกิดขึ้นและสัตว์อื่นก็เป็นพาหะได้เช่นกัน อาทิ แมว กระรอก กระต่าย 
  • การรักษาที่ถูกต้อง : พาสัตว์เลี้ยงของคุณไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าประจำปีเสมอ

          บ่อยครั้งที่เรามักได้ยินจากเหล่าคนเลี้ยงสัตว์มากมายพูดถึงและเข้าใจผิดกันมานานมาก แต่ไม่เป็นไรคนเราถ้าผิดแล้วแก้ไขเป็นเรื่องที่ให้อภัยกันได้ แต่เมื่อทราบแล้วยังดันทุรังทำอีก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ส่งผลร้ายต่อสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณอย่างแน่นอน

ต้าวขนปุย 4 ขา จอมขี้เล่นตัวโปรด สุนัขพันธุ์คอลลี่

ใครที่เป็นแฟนหนังฝรั่งเรื่อง Lessie หรือ เลสชี่ หนังดังในยุค 1950 ก็คงจะประทับใจในเจ้าหมาขนปุยน่ารักเจ้าเลสชี่ สุนัขพันธุ์คอลลี่ที่เป็นตัวเอก และมักจะเป็นฮีโร่เข้ามาช่วยเหลือทิมมี่เจ้าของของมันอยู่เสมอ ไม่ว่าทิมมี่จะผจญภัยในเมืองร้างหรือโชคร้ายตกลงไปในบ่อน้ำ เลสชี่ ก็จะเข้ามาช่วยทิมมี่อยู่เสมอ บทเด่นที่สุดก็ในเรื่องนี้ก็คือเลสชี่ สุนัขพันธุ์คอลลี่เพื่อนสี่ขาตัวเก่ง ซึ่งก็ค่อนข้างจะตรงกับลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์คอลลี่ มาก ๆ เพราะสุนัขพันธุ์นี้จะเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ ฉลาด อ่อนโยน ขี้เล่น และเป็นพี่เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็ก ๆ หากใครที่สนใจกำลังต้องการหาน้องหมามาไว้เป็นสัตว์เลี้ยง ก็ลองมาดูกันว่าสุนัขพันธุ์คอลลี่นั้นน่าสนใจอย่างไร

ลักษณะประจำสายพันธุ์ของสุนัขพันคอลลี่

สุนัขพันธุ์คอลลี่ ถือเป็นสุนัขที่มีขนาดกลาง โดยมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 45-65 ปอนด์ และแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อย 2 สายพันธุ์ ก็คือ สุนัขพันธุ์คอลลี่สายพันธุ์ขนยาว และสายพันธุ์ขนสั้น

ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์คอลลี่

สุนัขพันธุ์คอลลี่จะเป็นมิตรและมีนิสัยดี สามารถฝึกให้เชื่องได้ง่าย แต่ก็ค่อนข้างจะมีปฏิกิริยาอ่อนไหวกับคนแปลกหน้า พวกมันจึงเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดีมาก ๆ เพราะสุนัขพันธุ์คอลลี่จะเห่าเมื่อพบคนแปลกหน้า แต่จะไม่มีลักษณะก้าวร้าว โดยปกติสุนัขพันธุ์คอลลี่จะค่อนข้างเงียบสงบ แต่ถ้าพวกมันรู้สึกเบื่อพวกมันก็อาจจะเห่าเพื่อเรียกร้องความสนใจ

สุนัขพันธุ์คอลลี่เป็นสุนัขที่เลี้ยงง่าย พวกมันสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี สิ่งที่สำคัญสุนัขพันธุ์คอลลี่เป็นสุนัขที่ค่อนข้างจะแอคทีฟ เจ้าของควรจะนำสุนัขคอลลี่ออกกำลังกายทุกวัน อาจจะเป็นการพาวิ่งเล่นผ่อนคลายรอบบ้าน หรือให้มันวิ่งไล่เล่นนอกบ้านกับพวกเด็ก ๆ  ในอดีตสุนัขพันธุ์คอลลี่เป็นสุนัขที่ใช้ต้อนแกะ ดังนั้นพวกมันจะชอบการวิ่งไล่มากเป็นพิเศษ

การดูแลสุนัขพันธุ์คอลลี่

สุนัขพันธุ์คอลลี่ทั้งสายพันธุ์ขนสั้นและสายพันธุ์ขนยาว จะต้องการการแปรงขนเป็นประจำ และควรจะอาบน้ำเดือนละประมาณ 1 ครั้ง เจ้าของสามารถให้อาหารเม็ดแห้งแก่สุนัขพันธุ์คอลลี่ ประมาณ 2-3 ถ้วยต่อวัน และให้แบ่งเป็น 2 มื้อ

สุนัขพันธุ์คอลลี่เป็นสุนัขที่อ่อนโยน ขี้เล่น และมีสัญชาตญาณในการดูแลปกป้องเด็ก ๆ และเจ้าของให้ปลอดภัยจากอันตราย ไม่ต่างจากเลสซี่ที่คอยปกป้องจิมมี่ และสุนัขพันธุ์คอลลี่ยังไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ที่มากนัก ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาสุนัขสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของคุณ ก็ลองพิจารณาสุนัขคอลลี่ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้เจอต้าวเพื่อนแท้สี่ขา ผู้ที่จะสร้างความสุขและเสียงหัวเราะให้กับชีวิตของคุณ ที่เป็นสุนัขพันธุ์คอลลี่ก็ได้

หน้าร้อนมาแล้ว หาวิธีคลายร้อนให้น้องแมวแสนรัก

เมื่อฤดูร้อนมาถึง คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมไปทั่ว แมวแทบทุกตัวมีอาการอ่อนเพลียจากความร้อน ร่างกายขาดน้ำ เป็นลมแดด โดยเฉพาะแมวแก่หรือแมวที่มีปัญหาสุขภาพมักจะเป็นโรคร้ายแรงที่เกิดจากความร้อน อากาศร้อนจัดส่งผลกระทบต่อสุขภาพน้องแมวตัวโปรด เจ้าของต้องหาวิธีคลายร้อนช่วยลดอุณหภูมิให้รู้สึกเย็นและผ่อนคลาย มาดูกันว่าคุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้น้องแมวเย็นตัวในฤดูร้อน

1.วางชามน้ำและน้ำพุแมว

แมวบางตัวกินน้ำน้อย ชามใส่น้ำที่วางทิ้งไว้นานเกินไปอาจมีกลิ่นและตะกอนทำให้แมวไม่ยอมกินน้ำ ลองเปลี่ยนน้ำนิ่งเป็นน้ำพุเพื่อให้แมวได้ดื่มน้ำสะอาดคุณภาพดีตลอด 24 ชั่วโมง ใส่น้ำได้ปริมาณมาก น้ำไหลเวียนตลอดเวลาและมีอุณหภูมิที่เหมาะสมเสมอ กระตุ้นให้แมวกินน้ำมากขึ้นแก้กระหายและคลายร้อนได้

2.เสื่อระบายความร้อน

หากบ้านไม่มีเครื่องปรับอากาศ แนะนำว่าควรมีเสื่อระบายความร้อนหรือเบาะนอนเย็นช่วยระบายความร้อนให้แมวรู้สึกเย็นสบายและระบายอากาศได้ดีด้วย ควรเลือกวัสดุที่ทนทานต่อเล็บแมวหรือเล็มเล็บแมวก่อนนำเสื่อระบายความร้อนออกมาใช้

3.หยดน้ำเย็นบนอุ้งเท้าแมว

หากเห็นน้องแมวมีอาการเหนื่อยหอบ แลบลิ้นออกมาเพื่อระบายความร้อน ชอบนอนเหยียดยาวบนพื้นกระเบื้องเย็นๆ คุณกังวลว่าเจ้าเหมียวควบคุมอุณหภูมิได้ไม่ดีนัก ให้หยดน้ำเย็นลงบนอุ้งเท้าแมวเพื่อระบายความร้อน อาบน้ำเย็นในแมวในกรณีที่คุ้นเคยกับการอาบน้ำอยู่แล้ว แต่ถ้าแมวของคุณไม่เคยอาบน้ำมาก่อน วันที่อากาศร้อนจัดอาจไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุด จะทำให้แมวเครียดมากขึ้นและสุขภาพแย่ลง ถ้าไม่ชอบก็ไม่ควรบังคับกัน ลองหาวิธีอื่นดีกว่า

4.เปลี่ยนอาหารเปียกแทนอาหารแห้ง

อาหารเปียกมีน้ำผสมอยู่พอประมาณช่วยให้อาหารนิ่มกลืนง่าย เจ้าเหมียวได้รับน้ำเพิ่มมากกว่าอาหารแห้ง ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำและทำให้แมวรู้สึกเย็นขึ้น

5.เปิดแอร์ให้อากาศหมุนเวียน

การเปิดแอร์หรืออย่างน้อยก็เปิดหน้าต่างและเปิดพัดลมให้อากาศหมุนเวียน มีอากาศถ่ายเทสำหรับแมว ทำเป็นมุมเย็นๆ ให้หลบนอน ไม่ต้องไปหลบนอนในห้องน้ำที่พื้นเย็นกว่าที่อื่น

6.ตัดขนให้แมวขนยาว

ใครที่เลี้ยงแมวขนยาวฟู เมื่ออุณหภูมิร้อนจัด การตัดขนให้แมวตัวโปรดของคุณแบบพอดีไม่สั้นกุดเกินไปเพื่อปกป้องผิวหนังและไม่ทำให้แมวเสียเซลฟ์ด้วย เจ้าเหมียวก็ไม่ต้องทนกับความร้อนจนเกิดฮีทสโตรก

สัญญาณบ่งบอกว่าแมวอ่อนเพลียจากความร้อน 

ในวันที่อากาศร้อน เจ้าเหมียวจะทำอะไรได้นอกจากล้มตัวลงนอนหลบร้อนอยู่ในบ้านหรือเดินเตร็ดเตร่หาร่มเงาไม้ใหญ่เพื่อคลายร้อน อาการอ่อนเพลียจากความร้อนเป็นจุดเริ่มต้นของโรคลมแดด หากแมวรู้สึกร้อนเกินไป อาจไม่ยอมกินอาหาร หายใจหอบ พฤติกรรมวิตกกังวล ซึมเศร้า อ่อนแอ และหลบซ่อนตัว อาจเสี่ยงเป็นฮีทสโตรกได้หากไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม หากคุณกังวลว่าแมวร้อนเกินไปจนขาดน้ำหรือเป็นลมแดด ให้ติดต่อสัตวแพทย์ทันที

แนะวิธีเลี้ยงสุนัขและแมวแบบมินิมอล ตอบโจทย์คนรักสัตว์

การเลี้ยงสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวของแต่ละบ้านก็มีรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งวิธีการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงนั้นก็ส่งผลต่อ อารมณ์ ความคิดของสัตว์เลี้ยงได้มาก วิธีการเลี้ยงจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีความเข้าใจและสบายใจได้ในทุกวัน

  1. มีการจัดสรรตารางกิจกรรมหรือตารางชีวิตของสัตว์เลี้ยงอย่างเหมาะสม เพราะถ้าหากเราไม่ได้มีการจัดสรรเวลาต่าง ๆ ให้ดีโดยที่อัดแน่นกิจกรรมให้สุนัขมากจนเกินไป ควรที่จะมีกิจกรรมและเวลาในการพักผ่อนแบบที่พอดี เพื่อลดความเครียด ความหงุดหงิดของสัตว์เลี้ยง สร้างอารมณ์ที่เบิกบานและแจ่มใส หลาย ๆ บ้านที่เป็นกังวลว่าการที่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงไม่ทำอะไรเลยจะส่งผลเสียต่อสัตว์เลี้ยงแต่จริง ๆ แล้วการเว้นวรรค มีช่วงเวลาให้สัตว์เลี้ยงได้พักผ่อนบ้างก็เป็นประโยชน์สำหรับสัตว์เลี้ยงเช่นกัน
  1. อยู่ร่วมกันอย่างสันติด้วยการเข้าใจซึ่งกันและกัน อย่างที่เราทราบดีว่าสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขนั้นจะมีความไวต่อการได้ยินเสียงประเภทต่าง ๆ ได้มากกว่ามนุษย์ ซึ่งถ้าเรามีการใช้เสียงดัง โวยวาย เปิดเพลงฟังดัง ๆ หรือดูทีวีด้วยเสียงที่ดังมากเกินไปก็สามารถรบกวนสัตว์เลี้ยงของเราได้ ดังนั้นถ้าหากไม่จำเป็นก็ควรใช้เสียงดังในระดับที่เหมาะสม รวมทั้งการเปิดสื่อต่าง ๆ ก็เลือกเสียงดังพอประมาณถ้าหากว่ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบริเวณนั้น ๆ ด้วย 
  1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่นการพาสัตว์เลี้ยงไปวิ่งในช่วงเย็นที่สวยสาธารณะหรือใกล้ ๆ บ้านเพื่อให้สัตว์ได้มีการทำกิจกรรมทางกายที่มากขึ้น สร้างความผ่อนคลายจากความเครียดมาตลอดทั้งวัน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ใช้ระยะเวลาร่วมกันจนเกิดความคุ้นเคยต่อกันได้มากขึ้น
  1. ดูแลเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยอยู่เสมอ เนื่องด้วยถ้าหากมีปัญหาเรื่องของเห็บ ไร หมัด เหาก็จะทำให้สัตว์เลี้ยงมีปัญหาเรื่องโรคต่าง ๆ ตามมาได้ การอาบน้ำ ทำความสะอาด ตัดขน หวีขนอย่างสม่ำเสมอก็จะถือเป็นวิธีช่วยที่ดี ทั้งนี้ยังรวมถึงข้าวของเครื่องใช้ สิ่งต่าง ๆ ของสุนัขหรือแมวของเราด้วยที่ควรจะทำความสะอาดอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นที่นอน ของเล่น ผ้าคลุมตัว เป็นต้นเพราะสามารถกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เช่นกัน

แต่ละวิธีในการดูแลสัตว์เลี้ยงตามแบบฉบับคนรักสัตว์ที่นำมาฝากกัน เชื่อว่าน่าจะถูกใจหลายคน ใครที่ถูกใจวิธีการดูแลสัตว์แบบไหนก็สามารถนำไปประยุกต์และปรับใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์และนิสัยของสัตว์เลี้ยงแต่ละบ้าน บอกเลยว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด

แมวเก้าแต้มสายพันธุ์แมวมงคลของไทย

แมวเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์มานานแสนนานแล้ว มีหลักฐานชัดเจนว่าพบเจอซากมัมมี่ของแมวในสุสานโบราณของฟาโรห์อียิปต์อีกด้วย แมวไทยก็เช่นกัน ได้มีการค้นพบสมุดข่อยโบราณที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา ที่ปรากฎมีภาพวาดของแมวเก้าแต้ม แมวสายพันธุ์ไทยโบราณ ซึ่งในสมุดข่อยระบุว่า แมวเก้าแต้มเป็นแมวที่มีลักษณะดี และสวยงามอย่างยิ่ง อีกทั้งแมวเก้าแต้มถือเป็นแมวที่ให้คุณ นำพาความสิริมงคลมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ ลักษณะของแมวเก้าแต้มจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามศึกษาไปพร้อม ๆ กันเลย

สายพันธุ์แมวไทยที่ให้คุณ แมวเก้าแต้ม 

แมวเก้าแต้ม เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวมงคล ซึ่งเป็นที่เชื่อถือกันมาแต่ครั้งโบราณกาลว่า สายพันธุ์แมวมงคลนั้น จะให้คุณอนันต์ นำพาความเจริญก้าวหน้า และความสำเร็จมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ โดยแมวสายพันธุ์มงคลเหล่านี้ ได้แก่สายพันธุ์ เก้าแต้ม วิเชียรมาศ การเวก วิลาศ โกนจา นิลจักร เป็นต้น แมวสายพันธุ์มงคลเหล่านี้เป็นแมวไทยโบราณ บางสายพันธุ์ก็สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่สำหรับแมวเก้าแต้มนั้น ยังคงเป็นสายพันธุ์ที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเชื่อกันว่าเป็นแมวที่นำโชคลาภมาให้กับผู้เลี้ยง

แมวเก้าแต้มนั้นเป็นแมวไทยที่มีลักษณะดี เป็นแมว 9 ชีวิต จึงให้สิริมงคลสูง ผู้ที่เลี้ยงดูหรือเจ้าของแมวเก้าแต้มจะพบกับความสุขความเจริญ และความก้าวหน้า ไม่ว่าทำการงานสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จ ดังบทเช่นในบทนิพนธ์ ที่กล่าวถึงแมวเก้าแต้มเอาไว้ว่า

สลับดวงคอโสตรัตต้น ขาหลัง

สองไหล่กำหนดทั้ง บาทหน้า

มีโลมดำบดบัง ปลายบาท สองแฮ

เก้าแห่งดำดุจม้า ผ่าพื้นขาวเสมอ

คนสมัยก่อนโดยเฉพาะในหมู่ขุนน้ำขุนนาง จะนิยมเลี้ยงแมวเก้าแต้มเอาไว้ เพราะเชื่อว่าแมวสายพันธุ์นี้จะส่งเสริมด้านการค้าขายทำให้กิจการรุ่งเรืองร่ำรวย ในราชสำนักเองก็นิยมเลี้ยงแมวเก้าแต้มไว้เช่นกัน เพราะถือว่าจะนำมาซึ่งลาภยศศักดินาต่างๆ ปัจจุบันแมวเก้าแต้มค่อนข้างจะหายาก ต้องสอบถามที่ฟาร์มซึ่งเพาะเลี้ยงแมวเก้าแต้มโดยเฉพาะจริง ๆ

ลักษณะของแมวเก้าแต้ม

แมวเก้าแต้ม จะเป็นแมวพันธุ์ไทยขนสีขาวสะอาด ตามลำตัวจะปรากฏหย่อมขนสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้มขึ้นแต้มรวมทั้งสิ้น 9 แห่ง ได้แก่ แต้มขนบริเวณคอ หัว โคนขาหลังและโคนขาหน้าทั้ง 4 ข้าง แผ่นหลัง โคนหาง และบริเวณไหล่ทั้งสอง โดยลักษณะขนแต้มสีดำหรือสีน้ำตาลนี้ อาจจะพบได้เป็นทรงกลม หรือเป็นปื้นออกเหลี่ยมก็ได้ ปลายหางของแมวเก้าแต้มจะสีขาว ซึ่งลักษณะเช่นนี้เอง จึงเป็นที่มาของคำว่า แมวเก้าแต้ม ส่วนลักษณะของขนนั้น แมวเก้าแต้มจะมีขนปกคลุมทั้งตัวเหมือนกับแมวชนิดอื่น แต่จะเป็นขนจะสั้น ๆ ตลอดทั้งลำตัว 

 หากใครสนใจที่จะมีสัตว์เลี้ยงเพื่อเสริมสร้างสิริมงคลและโชควาสนาวาสนา ก็ลองพิจารณาเลือกแมวเก้าแต้มเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก ไม่แน่ว่าโชคลาภอาจจะมาถึงคุณโดยไม่คาดฝันก็ได้

วิธีสอนสุนัขหยุดกระโจนใส่คน

สุนัขหลายตัวมีพฤติกรรมกระโจนใส่คนแล้วใช้อุ้งเท้าวางบนตัว หนังสือบางเล่มบอกว่าเป็นพฤติกรรมทักทายด้วยความดีใจ แต่บางเล่นก็ว่าเป็นการข่มแสดงความเหนือกว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด หลาย ๆ คนรู้สึกว่าการกระโดดทักทาย โดยเฉพาะเมื่อสุนัขตัวเปียกหรือสกปรกจะทิ้งรอยอุ้งเท้าเปื้อน ๆ ไว้บนเสื้อผ้า ยิ่งเป็นสุนัขตัวโตด้วยแล้วถูกกระแทกแรง ๆ ทำให้เด็กหรือคนสูงอายุหกล้มเป็นอันตรายมาก 

บ้านไหนมีปัญหาสุนัขชอบกระโจนใส่สมาชิกในครอบครัว แขกที่มาเยือน หรือแม้แต่คนแปลกหน้า กำลังมองหาวิธีแก้นิสัยกระโจน ควรทำอย่างไรดีมาอ่านคำตอบกัน

1.เริ่มฝึกเมื่อสุนัขเริ่มกระโจนใส่คน การผลักตัวสุนัขออกไปมักจะไม่สำเร็จ เพราะสุนัขมักจะคิดว่าเป็นเกมและเล่นมวยปล้ำทำให้กระโจนแรงและตะกุยตะกายหนักขึ้น ต้องสอนวิธีการทักทายอย่างสุภาพทันทีเพื่อไม่ให้กระโดดใส่ใครอีกในภายหลัง

2.วิธีฝึกพฤติกรรมการทักทายด้วยการนั่ง ทำให้อุ้งเท้าทั้งสี่ข้างอยู่บนพื้น หรือจะฝึกให้นอนราบก็ได้ เมื่อมีคนกลับมาที่บ้าน การสั่งให้นั่งหรือนอนเป็นประจำทำให้สุนัขเข้าใจและเลิกกระโจนใส่คนอีก การฝึกให้นั่งค่อนข้างง่าย โดยใช้สายจูงและขนมเป็นอุปกรณ์ตัวช่วย เริ่มด้วยการถือสายสูงสั้น ๆ สั่งให้ “นั่ง” ดึงสายจูงขึ้นพร้อมกับใช้มือกดบั้นท้ายของสุนัขให้นั่งลง ปล่อยให้นั่งอยู่สักพัก หากสุนัขขยับจะลุกให้ใช้คำสั่งเดิมเพื่อให้สุนัขลงไปนั่งตามเดิม จากนั้นค่อยให้ขนมเป็นรางวัล ฝึกบ่อยๆ ก็จะเข้าใจและนั่งตามคำสั่งได้

3.ฝึกการทักทายเมื่อมีคนเดินเข้าบ้าน อีกวิธีหนึ่งเป็นการเบนความสนใจสุนัข โดยถือสายจูงสุนัขไว้ ให้คนเปิดประตูบ้านเดินเข้ามา ก่อนที่คนจะเดินมาถึงตัวสุนัข ให้โยนขนมของโปรดหลายชิ้นลงบนพื้นทำให้สุนัขสนใจและกินขนมบนพื้นก่อน จากนั้นค่อยให้คนเดินเข้ามาใกล้ ๆ พอสุนัขกินเสร็จแล้ว ให้คนเดินออกประตูไป ทำซ้ำๆ หลายครั้ง หลังจากนั้นเปลี่ยนวิธีฝึก ให้สุนัขนั่งลงก่อน เมื่อคนเปิดประตูเดินเข้ามาให้เจ้าของสุนัขโยนขนมลงบนพื้นตลอดเวลา ทำซ้ำหลายครั้ง สุนัขจะเริ่มเข้าใจและยอมนั่งนิ่งบนพื้นเมื่อมีคนเดินเข้าบ้านให้เจ้าของวางขนมชิ้นแรก การฝึกวิธีนี้ถ้าสุนัขกินขนมยังไม่หมดแต่เริ่มกระโจนใส่คนแล้วถือว่าล้มเหลวต้องหยุดทันที แล้วค่อยเริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่แรก

4.ฝึกสุนัขนั่งห่างจากประตูก่อน เสียงกดกริ่งประตูหรือแตรรถหน้าบ้านอาจกระตุ้นให้สุนัขตื่นตัวและเตรียมพร้อมกระโดดใส่คนที่เดินเข้ามาในบ้าน การฝึกในช่วงแรกต้องให้สุนัขอยู่ห่างจากประตู โดยเจ้าของถือเชือกไว้หรือผูกไว้กับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านห่างออกไป 2-3 เมตรหรือมากกว่า ทำให้สุนัขใจเย็นลงได้ ให้สมาชิกให้ครอบครัวมาช่วยฝึกโดยเปิดประตูบ้านแล้วค่อยๆ เดินเข้าใกล้ ถ้าสุนัขยังนิ่งอยู่ค่อยๆ ลูบคลำตัวทักทาย แต่ถ้าสุนัขขยับลุกขึ้นให้คนช่วยฝึกรีบลุกหันหลังเดินออกไปทันที ทำซ้ำต่อไปจนกว่าสุนัขจะเข้าใจว่าวิธีการรับแขกต้องนั่งนิ่งๆ เท่านั้น

จำไว้ว่าช่วงแรกต้องขยันฝึกบ่อย ๆ ยิ่งฝึกมากก็จะยิ่งง่ายขึ้น อย่าลืมให้ของรางวัลเมื่อสุนัขทำตามอย่างถูกต้อง

อ่านใจสัตว์เลี้ยงด้วยท่าทางของ สุนัข แมว เจ้าของรู้ต้องหลงรัก

แววตาคือการแสดงออกของสุนัขแมวที่ทำให้เจ้าของหลายคนหลงรัก และเมื่อทำผิดก็ใจอ่อนให้อภัยทุกที แต่ความน่ารักไม่ได้มีเพียงเท่านี้สัตว์เลี้ยงทั้งสองสามารถแสดงท่าทางที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่มีต่อเจ้าของ แน่นอนหากคุณได้ทราบถึงความหมายจะต้องหลงรักพวกเขามากกว่าเดิม เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่าท่าทางเหล่านั้นมีความหมายอย่างไรบ้าง

เจ้าเหมียวกับท่าทางการแสดงความรักที่มีต่อเจ้าของ

แสดงความรักด้วยการคาบของมาฝาก เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่ทำเอาเจ้าของบางคนต้องร้องกรี๊ดเพราะบางครั้งคาบตัวอะไรมาก็ไม่รู้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแมวตัวเมีย เพราะมีความเป็นนักล่าสูง จึงมักแสดงความรักด้วยการคาบของมาให้

อ้อนเจ้าของด้วยการคลอเคลีย ซึ่งเป็นสิ่งพฤติกรรมที่แสดงความเป็นเจ้าของ ขณะคลอเคลียมันจะปล่อยกลิ่นให้ติดตัวเจ้าของด้วย

นอนทับเจ้าของและนอนหงาย เป็นพฤติกรรมที่มันกำลังบอกว่ารู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่กับคุณและถือเป็นการบอกรักอีกด้วย

ร้องเหมียว ๆ เบา ๆ มันกำลังสื่อว่ารักคุณมาก ๆ นั่นเอง

ชอบเลียที่ตัวเจ้าของ เป็นการแสดงความรักความห่วงใหญ่

นวดตัวเจ้าของ เป็นการแสดงความรักและคิดถึง หากจะพูดให้เห็นภาพก็เหมือนเจ้าเหมียวในตอนเล็ก ๆ ที่ดูดนมแม่ มักจะนวดเต้านมแม่ไปด้วยนั่นเอง

พฤติกรรมการแสดงความรักที่เรากล่าวถึงนั้น คงทำให้หลายคนเข้าใจเจ้าเหมียวมากขึ้นและจากที่เคยคิดว่าแมวเป็นสัตว์ที่เย็นชา เมินเฉย แท้จริงแล้วเขาก็เป็นสัตว์ขี้อ้อน ต้องการความรักจากเจ้าของเช่นกัน เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจก่อนนั่นเอง

เจ้าตูบกับท่าทางการแสดงความรักที่มีต่อเจ้าของ

มักปลุกเจ้าของในยามเช้า พร้อมกระโจนขึ้นบนเตียงและเลียหน้า หากสุนัขพูดได้คงกำลังบอกคุณว่า “อรุณสวัสดิ์ เจ้านาย คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอหน้ากันตั้งหนึ่งคืน”

มักไปรอหน้าบ้านทุกครั้ง ถือเป็นการแสดงความจงรักภักดีว่าพร้อมที่จะติดตามไปด้วยและมันรู้สึกกังวลที่ต้องห่างคุณ

กระดิกหางเมื่อเจอเจ้าของ สำหรับพฤติกรรมนี้พวกมันจะแสดงออกมาอย่างเกินหน้าเกินตา เหมือนกับว่าไม่ได้เจอกันนานหลายปี ทั้งที่เจอกันทุกวัน

เดินตามไปทุกที่ เป็นการแสดงออกที่บอกว่ารักคุณมาก ๆ

เลียใบหน้า เป็นอีกหนึ่งการแสดงความรัก ความเอาใจใส่ต่อเจ้าของ

นี่ถือเป็นเพียงพฤติกรรมบางส่วนอันน่ารักของ สุนัข แมว เท่านั้น ซึ่งขณะที่คุณกำลังอ่านถึงความหมายท่าทางเหล่านี้ เชื่อว่าหน้าของ สุนัข แมว ที่บ้านต้องลอยมาแน่นอนและหลังจากนี้หากสัตว์เลี้ยงที่บ้านแสดงออกต่อคุณก็อย่าพึ่งได้รำคาญ เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่เขาจะสื่อถึงคุณ เพื่อตอบแทนความรักที่คุณมีต่อเขา

อยากเลี้ยงสุนัขและแมว ต้องทำอย่างไร ให้อยู่ด้วยกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน

หลายบ้านที่อยากเลี้ยงทั้ง สุนัข แมว ด้วยกัน แต่ก็เกิดความกังวลว่าทั้งสองจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะภาพที่เราเห็นบ่อย ๆ คือการต่อสู้ของ หมา แมว เจอหน้ากันแทบไม่ได้เป็นต้องแยกเคี้ยว กางเล็บ เตรียมฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ในบางครั้งรุนแรงถึงขั้นน้องแมวเสียชีวิตเลยล่ะ ทำให้เจ้าของหลายคนเหนื่อยใจไม่น้อย วันนี้เราจึงนำทริกเด็ด ๆ ในการเลี้ยงให้เขาอยู่ด้วยกันอย่างสงบและเป็นเพื่อน พี่น้องกันคล้ายกับว่าคลานออกมาจากท้องเดียวกัน โดยเราจะแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

กรณีแรก คือ นำมาเลี้ยงด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก

ถือเป็นวิธีที่ได้ผลมากทีเดียว เพราะ หมา แมว เมื่อพวกเขายังเล็กจะไม่สามารถแยกออกได้ว่าต่างสปีชีส์ แต่กลับคิดว่าเป็นพี่น้องหรือเพื่อนกัน ควรเลี้ยงในอายุเท่ากันตั้งแต่เกิดหรือ 2-3 เดือนจะดีมาก แบบนี้เจ้าของหายห่วงได้เลย เพราะพวกเขาจะไม่มีทางกัดหรือสู้รบกันแน่นอน เว้นแต่จะเล่นกันแรงมากเกินไปจนทำให้เกิดอาการหงุดหงิด เจ้าของต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดและให้ความรักทั้งสองอย่างเท่าเทียมกัน

กรณีสอง คือ นำมาเลี้ยงตอนที่โตแล้ว

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเลี้ยงหมาหรือแมวก่อนกันก็ตาม มักเจอปัญหาเมื่อนำสัตว์สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกเพิ่ม คือ การฟาดฟันกันไม่เว้นแต่ละวัน จนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องได้รับบาดเจ็บ ส่วนใหญ่น้องแมวจะทนไม่ได้ต้องหนีออกจากบ้าน เป็นแมวหลงทาง ซึ่งน่าสงสารมากทีเดียวหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นและเจ้าของเองก็เสียใจไม่น้อย ฉะนั้นหากต้องการเลี้ยงจริง ๆ เราขอแนะนำให้ทำตามนี้

แบ่งโซนให้ทั้งสองแยกจากกันหรือนำน้องแมวมาเลี้ยงในบ้าน จะทำให้สุนัขไม่กล้ามารังแกและทำให้น้องแมวได้อยู่อย่างสงบ

หากต้องการให้ทั้งสองอยู่ร่วมกันลองเอากรงมาวางไว้ใกล้ ๆ กันเพื่อสร้างความคุ้นเคย พร้อมแสดงความรักอย่างเท่าเทียม

เรื่องกลิ่นกับการเลี้ยงสัตว์ถือว่าเป็นสิ่งที่ใช้ฝึกพวกเขาได้หลากหลายทักษะ เจ้าของลองสร้างความคุ้นเคยให้แก่สุนัข โดยการนำกลิ่นฉี่ของแมวที่ซับด้วยทิชชู่ไปวางในบริเวณของบ้าน เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย ทำแบบนี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน สุนัขจะรู้ว่านี่คือหนึ่งในสมาชิกของบ้าน

อีกหนึ่งวิธีที่เป็นการสร้างความคุ้นเคยคือ เอาที่นอนของน้องหมาและน้องแมวให้นอนสลับกัน ทำแบบนี้ทุกวันเป็นเวลา 14 วัน แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งสองก็จะเริ่มคุ้นเคยกัน

วิธีสุดท้ายง่ายมาก ๆ คือการที่เจ้าของสัมผัสน้องหมาให้กลิ่นติดมือแล้วไปสัมผัสแมว ทำสลับกันแบบนี้จะทำให้ทั้งสองเริ่มคุ้นกลิ่นของกันและกัน

จากทริกทั้งหมดที่เรานำเสนอ ทำให้เจ้าของหลายคนสบายใจขึ้นมาบ้างแล้วว่า หากต้องนำ หมา แมว สัตว์ตัวใดตัวหนึ่งมาเลี้ยงด้วยกัน มีทริกง่าย ๆ ที่ช่วยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างสงบและรักกันดั่งพี่น้อง

ชี้เป้า! ไดร์เป่าขนป้องกันโรคเชื้อราในสุนัขและแมว

Chaolun รุ่น M105

Shernbao รุ่น DHD – 3000F

Minimal Pet รุ่น MP-302

Redminut รุ่น Smart Pet

การทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของ เนื่องจากสุนัขและแมวที่มีออกไปเล่นนอกบ้านสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่เจ้าของได้ การอาบน้ำสุนัขและแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่การอาบน้ำไม่ถูกวิธีสามารถก่อให้เกิดโรคเชื้อราในสุนัขและแมวได้

โรคเชื้อราในสุนัขและแมวเกิดมักมีสาเหตุมาจากการปล่อยให้ขนเปียกชื้นเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดเชื้อราบนผิวและทำให้สุนัข – แมวมีอาการระคายเคืองผิวก่อให้เกิดอาการคัน ขนหลุดร่วงและนำไปสู่ผิวหนังอักเสบจากแผล รวมถึงแพร่กระจายเชื้อรามายังเจ้าของได้

วิธีการรักษาและป้องกันโรคเชื้อราในสุนัขและแมว

พาสุนัขและแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อนำไปตรวจให้ละเอียดว่าจำเป็นต้องรับประทานยารักษาเชื้อราร่วมด้วยหรือไม่

ตัดขนให้สั้น เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายและช่วยลดความชื้นในเส้นขนและทำให้ขนที่เกิดใหม่มีสุขภาพดีขึ้น

เลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของตัวยา เพื่อลดอาการระคายเคืองและกำจัดเชื้อราบริเวณผิวหนัง พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังที่เกิดการอักเสบและบำรุงเส้นขน

เป่าขนทุกครั้งที่อาบน้ำเสร็จ เพื่อไม่ให้เกิดความชื้นสะสมนำไปสู่การเกิดเชื้อราผิวหนัง

5 ไดร์เป่าขนป้องกันโรคเชื้อราในสุนัขและแมว

Chaolun รุ่น M105 คุณสมบัติตัวเครื่องสามารถเป่าขนให้แห้งได้อย่างรวดเร็วภายใน 15 – 20 นาที มีให้เลือกทั้งลมร้อนและลมเย็น รวมถึงสามารถเป่าไล่น้ำได้ ความเร็วลมสูงสุด 65 เมตร/วินาที ความดังของเสียอยู่ที่ประมาณ 60 – 70 เดซิเบล ใช้งานง่าย มีให้เลือก 4 เฉดสี คือ ชมพู ดำ ฟ้าและขาว ราคาประมาณ 2,683 บาท

Shernbao รุ่น DHD – 3000F ไดร์เป่าขนสุนัขและแมวแบบ 2 มอเตอร์ ความแรง 3000 W สามารถทำความเร็วลมได้ 320 CFM เสียงไม่ดังมาก วัดได้ที่ 85 เดซิเบล สามารถปรับระดับความแรงลมและเปลี่ยนเป็นลมอุ่น – ลมร้อนได้ตามความต้องการ มีให้เลือก 3 เฉดสี คือ สีแดง สีส้มและสีม่วง ราคาประมาณ 4,450 – 4,750 บาท

Minimal Pet รุ่น MP-302 ไดร์เป่าขนที่มีคุณสมบัติสามารถใช้งานได้ทั้งแบบเป่าไล่น้ำและแบบเป่าแห้งมาพร้อมหัวแบบแปรงช่วยลดปัญหาเส้นขนพันกัน รวมถึงช่วยให้เป่าแห้งได้เร็วขึ้น สามารถปรับแรงลมได้ 2 ระดับ ราคาประมาณ 1,198 บาท

Redminut รุ่น Smart Pet Blowe อุปกรณ์ช่วยให้การเป่าขนสุนัขและแมวเป็นเรื่องง่าย มีระบบเซนเซอร์ที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิช่วยป้องกันการ Overheat รวมถึงมีระบบฟิลเตอร์ช่วยป้องกันฝุ่นละอองกระจายเวลาเป่าขนสัตว์เลี้ยง ราคาประมาณ 6,900 บาท

ดูแลสุนัขและแมวให้มีสุขภาพร่างกายที่ดี ร่าเริงและสะอาดถูกสุขลักษณะ ทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าอาบน้ำและเป่าขนในราคาแพงอีกต่อไป