โรคที่พบบ่อยในสุนัขต้องระวัง 2565

การเลี้ยงสุนัขให้สุขภาพดีได้นั้น เจ้าของต้องใส่ใจดูแลและหมั่นสังเกตความผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้สุนัขป่วยจนเกินเยียวยา หรือหากเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงบางชนิดก็อาจติดต่อไปสู่สัตว์เลี้ยงอื่นในบ้านและเจ้าของได้ด้วย เรามาดูกันว่าโรคที่พบบ่อยในสุนัขที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง

  1. โรคอ้วน – โรคอ้วนพบมากในสุนัขที่เจ้าของให้กินอาหารแบบเดียวกับคน ซึ่งจะมีปริมาณแป้งและไขมันที่สูงกว่าการกินอาหารเม็ดหรืออาหารกระป๋องของสุนัขทั่วไป ทั้งนี้ต้องควบคุมจำนวนมื้อให้เหมาะสมกับช่วงอายุของสุนัขด้วย มิเช่นนั้นจะกลายเป็นโรคอ้วนสังเกตจากพุงที่ใหญ่ และการเดินที่ช้าอุ้ยอ้าย และนำไปสู่การเป็นโรคความดันและไขมันสูงในสุนัขด้วย
  2. โรคพยาธิหนอนหัวใจ – พยาธิหนอนหัวใจนั้นมีพาหะนำโรคที่สำคัญคือ ยุง ดังนั้นต้องวางกรงเลี้ยงสุนัขในจุดที่ไม่เป็นมุมมืดหรือใกล้กับบริเวณน้ำขัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง หากสุนัขติดเชื้อแล้วจะมีอาการซึมไม่ร่าเริง เบื่ออาหาร เหนื่อยหอบง่าย และมีอาการท้องบวม หากนานเข้าพยาธิตัวแก่อาจไปอุดตันตามหลอดเลือดและทำให้เสียชีวิตได้
  3. ฟันผุ – แม้ว่าผู้เป็นเจ้าของส่วนใหญ่จะไม่ได้แปรงฟันให้สุนัข แต่วิธีการง่าย ๆ ในการกำจัดหินปูนและป้องกันฟันผุ ก็คือหมั่นให้สุนัขเคี้ยวขนมหรือของเล่นสำหรับสุนัขที่มีความแข็งพอเหมาะ มีแบรนด์สินค้าสุนัขชั้นนำมากมายที่ออกแบบดีไซน์ออกมาเพื่อตอบโจทย์นี้ มีการพัฒนาสี กลิ่น รส ที่ถูกใจสุนัขส่วนใหญ่ เช่น รสตับ รสเนื้อวัว รสไก่ ฯลฯ นอกจากลดปัญหาฟันผุได้แล้ว ยังช่วยลดปัญหากลิ่นปากอีกด้วย
  4. โรคลำไส้อักเสบ – ปัญหาลำไส้อักเสบเกิดจากเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนในอุจจาระ เมื่อสุนัขไปกินอาหารหรือน้ำจากแหล่งสกปรกที่มีการปนเปื้อนอุจจาระ เชื้อโรคนี้จะเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ตามช่วงอายุที่สัตวแพทย์แนะนำจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด หากติดเชื้อแล้วจะมีอาการซึมลง อาเจียน ถ่ายเป็นมูกเลือดและมีกลิ่นคาวเหม็นมาก หากพบอาการผิดปกติเหล่านี้ต้องรีบพาไปตรวจรักษาโดยทันที
  5. โรคพิษสุนัขบ้า – พิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัส Rabies ที่สามารถติดต่อได้ระหว่างสุนัขและแมว เจ้าของจึงต้องนำสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันไว้เป็นประจำทุกปี เพราะเป็นโรคที่ไม่มียารักษา หากสุนัขติดแล้วก็จะส่งต่อทางน้ำลายไปสู่คนหรือสัตว์ที่โดนกัดได้ด้วย

โรคที่กล่าวมาทั้ง 5 โรคนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด คนที่เลี้ยงสุนัขจึงต้องศึกษาหาข้อมูลทั้งเรื่องของอาหาร ยา วัคซีน ตั้งแต่เริ่มคิดเลี้ยงสุนัข รวมถึงดูแลสุขลักษณะ พื้นที่อยู่อาศัยของสุนัขให้เหมาะสมด้วย จะลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น

โรคที่สุนัขและแมวเป็นได้ คนรักสัตว์ควรรู้

ปัจจุบันการเลี้ยงสุนัขและแมวเป็นที่นิยมมาก เพราะใช้พื้นที่ไม่มาก และยังทำให้อารมณ์ของผู้เลี้ยงดีขึ้น ลดความเครียดจากการทำงานในแต่ละวันได้ ทั้งนี้ ผู้ที่จะเลี้ยงสุนัขและแมว ควรศึกษาเรื่องโรคที่มักเกิดกับสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ เพื่อการระมัดระวังอย่างเหมาะสม ดังนี้

1. โรคฉี่หนูหรือเลปโตสไปโลซีส (Leptospirosis)

เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีหนูเป็นพาหะ อาจมาจากการที่สุนัขและแมวไปวิ่งไล่จับหนู ทำให้ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย หรือรับเชื้อที่ปนเปื้อนมากับอาหารค้างคืนที่มีมูลหรือฉี่หนูผสมอยู่ หากแมวและสุนัขติดเชื้อนี้ จะทำให้มีอาการซึม เบื่ออาหาร ตาเหลือง ท้องเสีย อาเจียน ปัสสาวะมาก หากมีอาการมากจะสูญเสียน้ำจนเสี่ยงต่อการตายได้ วิธีการรักษาจะต้องได้รับยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียนาน ประมาณ 1 เดือนควบคู่กับการกำจัดหนูบริเวณที่เลี้ยง

2. โรคหนอนพยาธิ (Helminths)

หนอนพยาธิเป็นปรสิตที่มีรูปร่างหลายแบบ ทั้งตัวกลม ตัวแบนและตัวตืด ที่พบได้บ่อย คือพยาธิใบไม้ตับ พยาธิใบไม้ในปอด พยาธิตัวตืด พยาธิตัวจี๊ด ซึ่งมักจะมาจากการที่สุนัขและแมวไปกินอาหารและน้ำที่มีไข่ของหนอนพยาธิมา หรือได้รับผ่านการดูดนมแม่สุนัขหรือแมว การถ่ายพยาธิในช่วงวัยแรกเกิดของสุนัขและแมว จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคพยาธิเหล่านี้ได้ และต้องพาไปหาสัตวแพทย์ทุก 3-6 เดือน เพื่อกินยาถ่ายพยาธิเป็นประจำด้วย

3. โรคติดเชื้อโปรโตซัว Giardia (โรค Giardiasis)

มักมาจากการเลี้ยงในที่แออัด ทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งมักจะมีการเลียอุจจาระและน้ำปนเปื้อนเชื้อเข้าไป ทำให้เชื้อไปแพร่อาศัยอยู่ตามผนังลำไส้ ทำให้สัตว์มีอาการท้องเสีย ถ่ายมีกลิ่นเหม็นเน่า เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ในการรักษาต้องใช้ยาฆ่าเชื้อประมาณ 1 สัปดาห์ ควบคู่กับการทำความสะอาดบริเวณที่อยู่อาศัยของสัตว์

4. โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm disease)

มาจากยุงเป็นพาหะ โดยจะไปกัดสุนัขแล้วนำเชื้อไปถ่ายทอดต่อให้แก่แมว เมื่อเชื้อเข้าสู่ระยะที่ 4 จะสามารถเคลื่อนตัวเข้าสู่กระแสเลือด แล้วไปเติบโตต่อในอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจและปอด การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การให้กินยาไอเวอร์เมคติน ซึ่งจะต้องใช้สูตรแยกสำหรับสุนัขและแมวโดยเฉพาะ ทั้งนี้ต้องให้โดยสัตวแพทย์เท่านั้น เพราะอาจมีผลข้างเคียง

จะเห็นได้ว่า การเลี้ยงสุนัขและแมวมีโรคที่ต้องใส่ใจเฝ้าระวังอยู่หลายชนิด การฉีดวัคซีนตามอายุและรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมที่เลี้ยงจึงจำเป็นมาก และหากมีความผิดปกติใด ๆ ต้องรีบนำไปพบสัตวแพทย์ให้ตรวจรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อช่วยให้สุนัขและแมวมีสุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืนขึ้น

โรคที่สุนัขและแมวเป็นได้ คนรักสัตว์ควรรู้