มิชชั่นการตัดเล็บให้น้องแมว ความท้าทายที่คุณก็ทำเองได้

มิชชั่นการตัดเล็บให้น้องแมว

ใครที่เป็นทาสแมว หรือเจ้าของแมว ก็คงจะต้องปวดหัวกับพฤติกรรมการชอบข่วนของน้องแมวกันทั้งนั้น แต่นั่นก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมปกติตามสัญชาตญาณ เพราะที่น้องแมวข่วน ก็เพื่อทำเครื่องหมายอาณาเขต หรือเพื่อลับกรงเล็บของพวกเขา แต่ผลที่ได้ก็คือเฟอร์นิเจอร์ หรือผ้าม่านต่าง ๆ ในบ้านของทาสแมวก็กระจุยกระจายเสียหายเป็นรอยขีดข่วนเต็มไปหมด ทางแก้อย่างหนึ่ง ก็คือ ทาสจะต้องตัดเล็บให้กับน้องแมว ซึ่งทาสหลาย ๆ คนก็พากันโบกมือลากับงานสุดหินชวนเครียด ที่จะต้องตัดเล็บให้น้องแมวของตนเอง แต่ถัดจากนี้คุณจะไม่ต้องท้อแท้อีกต่อไป เราจะช่วยบอกเคล็ดไม่ลับเจ๋ง ๆ ที่ได้ผลดี เพื่อช่วยให้คุณตัดเล็บน้องแมวของคุณได้อย่างง่ายดาย และยังช่วยต่อชีวิตให้กับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดในบ้านของคุณได้อีกด้วย

มิชชั่นการตัดเล็บให้น้องแมว ความท้าทายที่คุณก็ทำเองได้

หัวใจของเคล็ดลับ ก็คือ ทาสจะต้องทำให้น้องแมวคุ้นเคยกับการตัดเล็บเสียก่อน เพราะโดยปกติน้องแมวทั้งหลายมักจะกลัวการตัดเล็บ และดิ้นหนีไปมา ดังนั้นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด ก็คือ คุณจะต้องไม่ทำให้น้องแมวกลัว โดยการฝึกตั้งแต่น้องยังเป็นลูกแมว ทำให้น้องสบายใจที่สุดเมื่อจะต้องถูกตัดเล็บ

วิธีการตัดเล็บน้องแมว

เริ่มต้นด้วยการซื้อใจ โดยทาสอาจจะเตรียมรางวัลเป็นขนมแมวที่น้องชอบ เพื่อช่วยให้น้องเหมียวมีความรู้สึกที่เป็นบวกและอารมณ์ดี เมื่อจะต้องถูกตัดเล็บ จำไว้ว่าการตัดเล็บแมวนั้น คุณเพียงแค่ตัดเล็บส่วนที่งุ้มงอเหมือนตะขอ ออกจากปลายเล็บส่วนใหญ่ จงอย่าตัดให้สั้นเกินไป ตัดเพียงแค่ปลายออก และทำอย่างรวดเร็วเสมอ บริเวณที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ก็คือ ส่วนที่มีสีชมพูภายในเล็บ ซึ่งเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยหลอดเลือดและเส้นประสาทเหมือนกับเล็บมือของมนุษย์ คุณจะต้องหลีกเลี่ยงส่วนนี้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้น้องเจ็บได้ และคุณก็ไม่จำเป็นต้องตัดเล็บทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในครั้งเดียว เริ่มต้นทีละหนึ่งเล็บ แล้วก็ตัดเพิ่มภายหลัง

เมื่อใดก็ตามที่คุณวางแผนจะทำการตัดเล็บให้น้องเหมียว อย่าลืมให้รางวัลเป็นขนมแมวที่น้องชื่นชอบทุกครั้ง เกาคางน้องเบา ๆ ใช้เวลาปลอบประโลมใจกันก่อนเริ่มตัดเล็บเสมอ ทำให้ประสบการณ์การตัดเล็บของน้องแมวนั้นไม่น่ากลัว และทำอย่างรวดเร็ว พยายามเบามือ และหากในครั้งต่อไปถ้าน้องสบายใจมากขึ้น คุณก็สามารถตัดเล็บน้องแมวได้คราวละสองสามเล็บได้มากขึ้น เชื่อเถอะว่าคุณจะต้องยินดีกับอุ้งเท้านุ่ม ๆ และเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีรอยขีดข่วนในบ้านของคุณแน่ ๆ เพียงแค่ใจเย็น ๆ เราขอเป็นกำลังใจ และเชื่อว่ามิชชั่นในครั้งนี้ จะต้องสำเร็จด้วยดีอย่างแน่นอน

ส่องพฤติกรรมเจ้าเหมียวที่ทาสแมวมือใหม่ต้องรู้

ใครเป็นทาสแมวน่าจะทราบดีว่าบรรดาเจ้าเหมียวช่างน่ารักน่าชังมากเพียงใด โดยเฉพาะเมื่อยามออดอ้อนขอความรักหรือเรียกร้องความสนใจ จนทำให้ปัจจุบันมีทาสแมวจำนวนมากที่หลงใหลในความน่ารักของเจ้าเหมียวไม่แพ้สุนัขหรือสัตว์พันธุ์อื่น ๆ แต่สำหรับทาสแมวมือใหม่ที่เห็นพฤติกรรมแปลก ๆ จากเจ้าเหมียว แน่นอนว่าอดข้องใจไม่ได้ เพราะฉะนั้นลองมาดูกันว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้างที่ทาสแมวมือใหม่ต้องรู้จะได้รับมือกับเจ้าสี่ขาได้อย่างถูกต้อง

1. สบตาทาส นานเป็นพิเศษ

การที่น้องแมวสบตาเราคงไม่ใช่เรื่องแปลกสักเท่าไหร่ แต่บางครั้งน้องแมวกลับสบตาเรานานเป็นพิเศษ การจ้องตาของแมวนั้นหากไม่มีท่าทางหวาดกลัว แสดงให้เห็นว่าน้องแมวรู้สึกไว้ใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้ หากแมวกระพริบตาช้า ๆ ระหว่างสบตาด้วย นั่นทำให้เดาได้เลยว่าแมวรู้สึกสบายใจกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบรวมถึงเจ้าของ แต่ถึงอย่างนั้นหากแมวสบตาเรา เราควรกระพริบตาให้ และไม่ควรจ้องกลับนาน ๆ เพราะอาจทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ 

2. หางม้วนชี้ขึ้นด้านบน

นอกจากการสบตาแมวแล้ว ทาสแมวอย่าลืมสังเกตหางแมวได้ด้วย เพราะหางแมวสามารถสื่อสารความรู้สึกของเจ้าเหมียวได้ เช่น หากพบว่าหางม้วนชี้ขึ้นด้านบน ท่าทางดูผ่อนคลาย แสดงให้เห็นว่าเจ้าเหมียวรู้สึกสบายใจ ไม่หวาดระแวงกับสิ่งแวดล้อม หากพบว่าหางกระตุกเป็นระยะนั่นแสดงให้เห็นว่าน้องแมวรู้สึกรำคาญเพราะมีบางอย่างกวนใจ แต่เมื่อไหร่ที่หางชี้ขึ้นด้านบนและขนที่หางพองฟูให้รู้เลยว่าเจ้าแมวกำลังเตรียมตัวต่อสู้กับอะไรบางอย่าง

3. นอนกลิ้งเพื่อให้เกาพุง

ต้องบอกก่อนว่าตำแหน่งพุงของเจ้าเหมียวคือตำแหน่งที่แมวหวงสุด ๆ ไม่ใช่จะสัมผัสได้ง่าย ๆ แต่หากวันใดที่เจ้าเหมียวยอมล้มตัวนอนหงายเพื่อให้เกาพุง แสดงว่าเจ้าเหมียวให้ความไว้ใจเป็นอย่างมาก ยิ่งหากน้องแมวเลียตัวเราแสดงว่าเขามอบความไว้ใจสูงสุด เพราะพฤติกรรมนี้แมวจะใช้ทำกับลูกเท่านั้น นอกจากนี้ แมวบางตัวยังชอบเอาตัวมาคลอเคลีย พฤติกรรมนี้แสดงถึงการเป็นมิตรเพราะน้องแมวต้องการทิ้งกลิ่นไว้ที่ร่างกายมนุษย์นั่นเอง

เพราะเจ้าเหมียวไม่สามารถสื่อสารมาเป็นคำพูดได้ ใครที่เป็นทาสแมวจึงจำเป็นต้องศึกษาพฤติกรรมเจ้าเหมียวเพื่อให้เข้าใจว่าพวกเขาต้องการอะไร แต่ถึงแม้เจ้าแมวน้อยจะน่ารักและมีพฤติกรรมทำให้มนุษย์ตกหลุมรักได้มากขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่ต้องระลึกเสมอคือควรเลี้ยงแมวเมื่อพร้อม เพราะเมื่อตัดสินใจดูแลเจ้าเหมียวแล้ว ความพร้อมก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะพวกเขาต้องการที่พักอาศัย อาหาร ยา การดูแลเอาใจใส่ รวมถึงความรักจากเจ้าของ ก่อนตัดสินใจรับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงจึงควรพิจารณาความพร้อมทุกด้านเพื่อให้เจ้าเหมียวอยู่กับเรานาน ๆ และไม่เป็นภาระภายหลัง

ข้อดีของการเลี้ยงสุนัขและแมวอยู่ด้วยกัน

ข้อดีของการเลี้ยงสุนัขและแมวอยู่ด้วยกัน

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนั้นมีคนที่เป็นทาสหมาทาสแมวรวมกลุ่มกันจำนวนมากในเฟซบุ๊ก เนื่องจากทั้งสุนัขและแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความน่ารัก มีหลายพันธุ์ให้เลือก และส่วนใหญ่ก็ชอบคลุกคลีอยู่ใกล้ชิดคน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเลี้ยงทั้งสุนัขและแมวอยู่ด้วยกัน เรามาดูกันว่าจะมีข้อดีอะไรบ้าง

1. ถูกใจคนทั้งบ้าน

หากในบ้านของเรามีทั้งคนที่ชอบเลี้ยงหมาและแมว ก็สามารถเลี้ยงทั้งสองชนิดได้ เพียงแต่ต้องเลือกสายพันธุ์และเลี้ยงคู่กันตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์หรือโกลเด้นที่มีความคิดเล่น ไซบีเรียนฮัสกี้ที่เป็นสุนัขจอมซน หรือสุนัขพันธุ์เล็กอย่างชิวาวา ปอมปอม ฯลฯ ส่วนแมวก็ควรจะเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซีย สก๊อตติช ฯลฯ เพื่อลดโอกาสในการกัดกัน เพียงเท่านี้ในบ้านคุณ ก็จะมีสัตว์เลี้ยงที่ถูกใจทุกคนแล้ว

2. ทำให้เรียนรู้ธรรมชาติ

การเรียนรู้ด้านความแตกต่างเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากคนเราที่มีอุปนิสัยต่างกันแล้ว การที่เราเลี้ยงดูสุนัขและแมวอยู่ด้วยกัน จะทำให้เราเห็นถึงธรรมชาติของสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ด้วย ว่ามีอุปนิสัยตามสายพันธุ์ต่างกันอย่างไร จะทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงกลายเป็นคนช่างสังเกตและประนีประนอมมากขึ้นด้วย หากในบ้านคุณมีเด็กเล็ก เขาจะซึมซับการเรียนรู้อุปนิสัยของสัตว์แต่ละชนิด ทำให้มีส่วนเสริมให้เด็ก ๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มี EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์สูงได้ด้วย

3. ทำคลิปสร้างรายได้เสียเลย

หากสุนัขและแมวไม่ได้เลี้ยงดูมาด้วยกัน ก็มักจะกัดกัน การเลี้ยงคู่กันจึงดูเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ คนจำนวนมากจึงอยากรู้ว่าสุนัขและแมวนั้นอยู่ด้วยกันได้อย่างไร หากคุณสามารถเลี้ยงสุนัขและแมวอยู่ร่วมกันได้และจัดสรรพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม ก็สามารถที่จะอัดคลิปลง YouTube ให้คนเห็นแง่มุมความน่ารักของสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ ว่าสามารถอยู่ร่วมกันได้จริง ๆ มีความน่ารักน่าเอ็นดูตามธรรมชาติ จะนำมาซึ่งรายได้จากผู้ติดตามหรือการฝากโฆษณาสินค้า เช่น อาหาร เสื้อผ้าสำหรับสุนัขและแมวได้อีกด้วย

4. ทำให้ได้ความรู้ทางสัตววิทยาเพิ่มขึ้น

เมื่อสุนัขและแมวเจ็บป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ทำให้เกิดคำถามมากมายตามมา เช่น ยาชนิดใดใช้ได้กับสุนัขหรือแมวบ้าง ต้องฉีดวัคซีนที่อายุเท่าใดบ้าง หรือ แม้แต่เรื่องธรรมดา เช่นอาหารใดเหมาะกับสุนัขและแมว ฯลฯ เหล่านี้เป็นคำถามที่ต้องการผู้รู้มาตอบในกลุ่มเฟซบุ๊กมากมาย หากคุณเลี้ยงสัตว์ทั้ง 2 ประเภทนี้ ก็เท่ากับเป็นโอกาสให้ได้เรียนรู้ด้านโรค ยาและโภชนาการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทั้งสองชนิด และมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กันกับคนรักหมาแมวด้วย ถือเป็นวิทยาทานกับผู้อื่นได้ด้วย

จะเห็นได้ว่า การเลี้ยงสุนัขและแมวร่วมกันนั้น แม้อาจจะดูน่าปวดหัว ยุ่งยาก แต่หากเริ่มต้นด้วยความชอบหรือความสงสารสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง นำมาเลี้ยงด้วยความรักและหมั่นหาความรู้เพิ่มเติม คุณจะได้โอกาสในการพัฒนาตัวเองและสร้างประโยชน์ในวงกว้างต่อไปด้วย

เหตุผลที่ทาสแมวพอใจเลี้ยงแมวมากกว่าสุนัข

เมื่อคิดจะรับสัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัว ยังเลือกไม่ได้ว่าแมวหรือสุนัข แม้ว่าสุนัขจะได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ แต่อาจเป็นการยากที่จะตัดสินใจเพราะวิธีการดูแลแตกต่างกันมาก บรรดาทาสแมวยกขบวนกันมาให้เหตุผลว่าทำไมเจ้าเหมียวจึงเป็นสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกครอบครัวมากกว่าสุนัข

ทำไมทาสแมวถึงนิยมเลี้ยงแมวมากกว่าสุนัข

การเลี้ยงแมวไม่ได้ใช้พื้นที่มาก เจ้าตัวน้อยต้องการอาหาร น้ำ และของใช้จำเป็นต่าง ๆ มีกล่องกระดาษหรือของเล่นสักชิ้น ผิดกับการเลี้ยงเจ้าตูบ แค่การแชร์เตียงสุนัขตัวจิ๋วก็ลำบากแล้วเพราะใช้พื้นที่มากกว่า สุนัขต้องการเวลาออกกำลังกาย ชอบให้เล่นด้วย คาบของมาเล่นเกลื่อนบ้านเป็นประจำ

เลี้ยงแมวประหยัดกว่า การเลี้ยงแมวตลอดช่วงอายุขัยมักจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าสุนัข เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีความรับผิดชอบจะเสียค่าใช้จ่ายมากมาย ตั้งแต่ราคาค่าตัวแมว ค่าอาหาร ของเล่น ค่ารักษาพยาบาล ของเล่นแมวมักจะถูกกว่า ทำเองได้ง่าย แค่ก้อนไหมพรมก็เล่นได้นาน ต่างจากสุนัขที่มักจะทำลายของเล่น เลี้ยงแมวสองตัวเป็นเพื่อนกันยิ่งประหยัดมากขึ้น

แมวอยู่ในบ้านเท่านั้น เลี้ยงสุนัขต้องมีสนามหญ้าในบ้านหรือใกล้บ้านที่จะพาหมาออกไปเดินเล่น แต่เลี้ยงแมวอยู่ในบ้านปลอดภัยกว่า แมวชอบนอนขดตัวบนโซฟา มองผ่านหน้าต่างส่องนกและแมลงตลอดทั้งวัน

แมวเงียบกว่า ในกรณีสุนัขบางตัวปากเปราะ เห่าแทบทุกโอกาสน่ารำคาญมาก ไม่ว่าสัตว์อื่นจะผ่านไปมา ของเล่นโปรดติดอยู่ใต้โซฟา ส่วนแมวนอนกลางวันเงียบกริบ ถ้าไม่ทำหมันจะส่งเสียงรบกวนในเวลากลางคืนมากกว่าปกติ บางครั้งแมวรู้สึกเหงาจะส่งเสียงเรียกร้องความสนใจ บ้างก็ชวนเล่น ขออาหาร หรือรู้สึกไม่สบาย

ฝึกแมวไม่ยุ่งยากเท่าสุนัข ลูกแมวหย่านมแล้วจะเรียนรู้พื้นฐานการใช้ชีวิตง่าย ๆ เช่น วิธีใช้ถาดทรายแมว นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ออกไปทำงานทิ้งแมวไว้ที่บ้านตลอดวันไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเป็นสุนัขต้องเริ่มต้นฝึกลูกสุนัขตัวใหม่ตั้งแต่เล็กและฝึกอย่างต่อเนื่อง ถ้าทิ้งไว้ให้อยู่บ้านลำพังนาน ๆ มักจะส่งเสียงร้องสร้างปัญหารบกวนเพื่อนบ้านหรือสร้างความเสียหายทำลายสิ่งของในห้องพักได้มากกว่าที่คิด

แมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาด เลียทำความสะอาดตัวเองบ่อย ๆ อาจสกปรกบ้างเวลาที่ฉี่สร้างอาณาเขต หรือล่านก ดักจับหนู ต้องเก็บทำความสะอาดกันบ้าง แต่กลิ่นแมวอย่างเดียวสามารถไล่หนูอยู่ห่างจากบ้านได้ ส่วนสุนัขชอบคาบของเหม็น กลิ้งเกลือกขยะและสัตว์ที่ตาย แต่ถึงจะเลี้ยงแบบสะอาดในบ้านก็ยังต้องอาบน้ำและตัดแต่งขนเป็นประจำ ไปทำที่ร้านสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย

ทำไมถึงนิยมเลี้ยงแมวมากกว่าสุนัข

แมวเข้าใจพื้นที่ส่วนตัว บางครั้งทำงานหนักมาทั้งวันไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่น ถ้าเป็นน้องหมาอาจจะคาบของเล่นเดินตามคุณไปทั่วบ้านสะกิดชวนให้เล่น แต่แมวจะไม่เข้ามากวนใจ แค่ผลักตัวออกไปเบา ๆ เจ้าเหมียวจะไม่มารบกวนอีก มีโอกาสนอนพักผ่อนมากกว่าเลี้ยงสุนัข ข้อดีของการเลี้ยงแมวและสุนัขแตกต่างกันไป ใครชอบทำกิจกรรมอาจอยากเลี้ยงสุนัขเป็นเพื่อนคลายเหงาและพาไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ได้มากกว่า