เลี้ยงสุนัขและแมว ต้องรู้กฎหมาย หากสัตว์เลี้ยงทำผิด

ปัญหาการเลี้ยง สุนัข แมว ในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้านและเป็นข่าวให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง นั่นคือ ส่งเสียงดัง, ขับถ่ายของเสียไม่เป็นที่และส่งกลิ่นเหม็น จากปัญหาเล็ก ๆ อาจลุกลามบานปลายหากไม่ได้รับการแก้ไขที่ดี ซึ่งนอกจากจะมีพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์เลี้ยงออกมาแล้ว แต่อย่าลืมว่ายังมีกฎหมายอื่น ๆ ที่สามารถเอาผิดเจ้าของหรือผู้เลี้ยงได้หากสุนัขและแมวกระทำความผิด ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 433 ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ ท่านว่าเจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้รับเลี้ยงรับรักษาไว้แทนเจ้าของจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่สัตว์นั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงการรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์ หรือตามพฤติการณ์อย่างอื่น หรือพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นย่อมจะต้องเกิดมีขึ้นทั้งที่ได้ใช้ความระมัดระวังถึงเพียงนั้น

อนึ่ง บุคคลผู้ต้องรับผิดชอบดังกล่าวมาในวรรคต้นนั้น จะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลผู้ที่เร้าหรือยั่วสัตว์นั้นโดยละเมิด หรือเอาแก่เจ้าของสัตว์อื่นอันมาเร้าหรือยั่วสัตว์นั้น ๆ ก็ได้

ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 377 ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558]

อยากเลี้ยง สุนัข และ แมวต้องทำอย่างไร

สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ศึกษา หาข้อมูลเกี่ยวกับ สุนัข แมว ที่จะเลี้ยงเสียก่อนว่าสายพันธุ์ที่จะเลี้ยงนั้นต้องการพื้นที่ ที่ให้เค้าวิ่งเล่นหรือไม่ เห่าเก่งแค่ไหนและที่สำคัญคุณมีเวลามากพอที่จะฝึกให้ สุนัข แมว ปลดทุกข์ทั้งหนักและเบาในสถานที่หรือภาชนะที่จัดเตรียมได้หรือไม่ จากนั้นคุณเองจะจัดการกับสิ่งปฏิกูลของสุนัขแล้วแมวอย่างไร เพราะหลายต่อหลายข่าวที่เป็นคดี ส่วนใหญ่จะมาจากการจัดการสิ่งปฏิกูลของสัตว์เลี้ยงไม่ได้ ทำให้เกิดการทะเลาะและเข้าใจผิดกับเพื่อนบ้านตลอดเวลา ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงนอกจากจะดูแลสัตว์และฝึกฝนให้ดี ต้องเอาใจใส่เพื่อนบ้านด้วย โดยเฉพาะการแจ้งเตือนจากเพื่อนบ้าน เพราะไม่อย่างนั้น คนที่จะมีปัญหาจะเป็นคุณเอง นอกจากนี้การพาสุนัขแล้วแมวออกไปเดินเล่นทุกครั้ง ควรมีสายลากจูง เพราะไม่อย่างนั้นหากเกิดเหตุร้ายจะไม่มีใครสามารถช่วยคุณได้

ทำยังไงดีเมื่อแมวหายออกจากบ้าน

ทำยังไงดีเมื่อแมวหายออกจากบ้าน

สิ่งที่ทำให้คนที่เลี้ยงแมวต้องเป็นทุกข์ที่สุดนอกจากเรื่องของอาการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆที่มีอยู่มากมายแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำของคนที่เลี้ยงแมวมีโอกาสที่จะได้เจอก็คือปัญหาเรื่อง “แมวหายออกจากบ้าน” ออกจากบ้านนั่นเอง แต่จะทำยังไงดีหากว่าแมวของคุณอยู่ๆหายไปจากบ้านนานๆ

1. ใจเย็นๆ – หยุดการตำหนิตนเองหรือคนในบ้านและหายใจเข้าลึกๆ เพราะคุณจำเป็นต้องใช้สติปัญญาทั้งหมดของคุณเพื่อทำตามขั้นตอนที่มีความจำเป็น

2. ตรวจค้นให้ทั่วบ้าน – ตรวจสอบบ้านของคุณจากบนลงล่าง ห้องใต้หลังคา(ถ้ามี),ตู้เสื้อผ้า,ลิ้นชักและห้องต่างๆที่อยู่ในบ้านทั้งหมด เพราะบางทีมันอาจจะกำลังขดตัวอยู่ใกล้ๆแต่ไม่ได้ออกมาเวลาที่คุณเรียกก็ได้ เพราะมีหลายกรณีมากที่แมวไม่ได้หายไปไหนแต่อาจมีความผิดปกติบางอย่างจนอาจเลือกใช้วิธีการซ่อนตัวอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านที่มันรู้สึกว่าปลอดภัยนั่นเอง

3. สอบถามเพื่อนบ้าน – เป็นไปได้มากเช่นกันว่าแมวอาจจะกระโจนออกไปจากบ้านเพื่อไปเที่ยวเล่นอยู่รอบๆบริเวณใกล้ๆที่เป็นเพื่อนบ้าน ลองวอบถามดูให้แน่ใจว่าพบเห็นหรือไม่ ถ้าเห็นครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่

4. นำของเล่นที่แมวชอบติดตัวไปด้วย – หากจะไปค้นหาแมวที่หายตัวไปและอาจจะกำลังซ่อนตัวอยู่ให้นำของเล่นหรือสิ่งของที่แมวของคุณชอบนำติดตัวไป เพราะหากว่ามันซ่อนตัวอยู่เพราะความกลัวของเล่นที่มีกลิ่นจะทำให้มันรู้สึกคุ้นเคยและมีความปลอดภัย และให้เรียกแมวด้วยการใช้น้ำเสียงตามปกติที่เคยเรียกอย่าตะโกนเสียงดังๆ เพื่อให้แมวจำได้ว่าเป็นเสียงของเจ้าของเพราะความคุ้นเคย ส่วนหากต้องตามหาในตอนกลางคืนให้นำไฟฉายติดตัวไปด้วยเพราะตาของแมวจะสะท้องกับแสงในเวลากลางคืนจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะเจอตัวได้ง่ายขึ้น

5. ใช้ Social Media ให้ช่วย – ไม่มีอะไรที่จะกระจายข่าวได้เร็วเท่ากับการใช้ Social อีกแล้ว ให้เอารูปถ่ายที่ชัดที่สุดพร้อมกับรายละเอียด เช่น สายพันธุ์ สี พิกัดที่หาย ปลอกคอแบบไหน หรือมีจุดเด่นอะไรที่ดูแล้วแตกต่างจากแมวตัวอื่น และหากทำได้ลองเสนอค่าตอบแทน เล็กๆน้อยๆให้กับผู้ที่เจอก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เจอตัวแมวได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือการตั้งสติให้ดีก่อนเพื่อจะได้รู้ว่าควรทำอะไรบ้าง ซึ่งบางทีก็เป็นไปได้สูงมากว่าฝากแมวอาจจะไปเที่ยวเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น บางตัวอาจจะหายไปนานสักหน่อยแต่ก็จะกลับมาบ้านเองได้ซึ่งก็มีให้เห็นบ่อยมากเช่นกัน