วิธีดูแลสุนัขและแมว ให้ปราศจากโรคภัย

วิธีดูแลสุนัขและแมว ให้ปราศจากโรคภัย

การดูแลสุนัขและแมวเพื่อป้องกันโรคภัยมีหลายขั้นตอนที่สำคัญ นี่คือบางวิธีที่สามารถทำเพื่อให้สุนัขและแมวของคุณมีสุขภาพดีแข็งแรงและป้องกันโรคภัย

การให้อาหารที่เหมาะสม : ให้อาหารที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมตามอายุและน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง รวมถึงการเลือกอาหารที่มีคุณภาพดี และเพื่อง่ายต่อการย่อย

การออกกำลังกาย : สร้างนโยบายการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและแมว เพื่อให้พวกเขามีสุขภาพที่ดี และลดความเสี่ยงต่อโรคภัย

การตรวจสุขภาพเป็นระยะ : นำสุนัขและแมวไปพบสัตวแพทย์เป็นระยะเพื่อตรวจสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆตามกำหนด

การควบคุมพยาธิ : การให้ยาตัวป้องกันเชื้อโรค เช่น กำจัดพยาธิที่เป็นพาหะสำหรับโรคต่างๆ เช่น เห็บหมัด หนอนใน ฯลฯ

การควบคุมสิ่งแวดล้อม : ให้สภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัย รวมถึงการควบคุมการแพร่เชื้อโรคจากสิ่งแวดล้อม เช่น การล้างจานน้ำ การทำความสะอาดที่เรือนและสิ่งของที่สัมผัสได้

การติดตามและรับรู้สัญญาณของโรค : ระมัดระวังกับอาการที่อาจเป็นสัญญาณของโรค เช่น ไข้ อาเจียน หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

การฆ่าเชื้อ : รักษาระบบทางการฆ่าเชื้อเรียบร้อย และรักษาความสะอาดโดยการล้างมือก่อนและหลังจากการจัดการกับสัตว์เลี้ยง

การสงวนพื้นที่ : ทำความสะอาดบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค

การดูแลสุนัขและแมวอย่างรอบด้านจะช่วยลดโอกาสในการป่วย และทำให้พวกเขามีชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่าลืมตรวจสอบคำแนะนำจากสัตวแพทย์ของคุณเพื่อรับข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมที่เหมาะสมสำหรับสุนัขและแมวของคุณด้วยนะคะ

ศึกษาภาษาหมาจาก 8 ท่าทางที่บอกว่าเจ้าตูบรักคุณ

สุนัขถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่มนุษย์เรามีความผูกพันด้วยมาอย่างยาวนาน ถึงแม้พวกมันจะไม่สามารถพูดได้ แต่แสดงออกมาจากสีหน้า ท่าทางและแววตาได้อย่างจริงใจ ซึ่งหากใครเลี้ยงสุนัขก็จะสัมผัสถึงความรู้สึกที่พวกมันแสดงออกมาได้ราวกับว่าพูดภาษาเดียวกัน แต่หากใครยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เจ้าตูบที่บ้านกำลังแสดงออกนั้นหมายความว่าอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ 

1.สุนัขจ้องตาคุณ ในขณะที่คุณกำลังอุ้มมันขึ้นมา ปรากฏว่ามันจ้องตานั้นแปลว่ามันรักคุณ แต่หากมันบ่ายเบี่ยงไม่สนใจแสดงว่าเจ้าตูบตัวนั้นไม่ได้สนใจคุณเท่าไหร่นัก ลองนำไปใช้กับสุนัขที่คุณกำลังจะไปซื้อมาเลี้ยงหรือสุนัขที่บ้านดูแล้วจะรู้ว่าพวกมันคิดอย่างไรกับคุณ

2.หลังทานอาหารมักคลอเคลีย เมื่อสุนัขเข้ามาคลอเคลียหลังจากที่กินเสร็จ แม้ว่าจะเลอะก็อย่าพึ่งรำคาญเพราะนั้นเป็นการแสดงความรักของเจ้าตูบนั้นเอง 

3.เดินตามไปทุกที่ ในช่วงที่คุณเดินไปไหนมาไหนแล้วพบว่าสุนัขที่บ้านเดินตามติดไม่หยุด ก็อย่าพึ่งรำคาญพวกมันเลย ด้วยสุนัขนั้นเป็นสัตว์สังคมการได้อยู่ร่วมกันเป็นฝูงหรือเจ้านายจะทำให้พวกมันมีความสุขและเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งด้วย

4.ยักคิ้วให้ เป็นกิริยาท่าทางที่ทำให้เจ้าของหลายคนขำและมีรอยยิ้มไม่น้อย เมื่อสุนัขสามารถยักคิ้วได้ ไม่เพียงทำให้คุณได้เห็นความน่ารักเท่านั้น ยังเป็นสิ่งที่บอกว่ามันรักเจ้านายของมันสุด ๆ

5.นอนหลับกับคุณ เป็นเรื่องปกติที่สุนัขจะนอนร่วมกับเจ้าของ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่อนุญาตก็ตาม แต่เจ้าตูบก็ได้แสดงความรักไปแล้วว่าต้องการนอนกับเจ้าของ

6.เจ้าตูบมักจะกระโจนเข้าใส่ เจ้าของส่วนใหญ่คงไม่ค่อยชื่นชอบพฤติกรรมแบบนี้ เพราะเมื่อเจ้าตูบกระโจนใส่มักจะทำให้เลอะ แต่อย่าพึ่งรำคาญไป เพราะนั้นเป็นสิ่งที่มันกำลังแสดงออกมาว่าดีใจมากๆ ที่ได้เจอหน้าและรักคุณที่สุด 

7.เจ้าตูบจอมยืนพิง เป็นพฤติกรรมที่สื่อได้ว่าน้องหมากำลังเกิดความกังวลบางอย่าง การยืนพิงเจ้าของทำให้รู้สึกปลอดภัย เพราะมันเชื่อใจคุณ หากเจ้าตูบยืนพิงก็อย่าพึ่งรำคาญไปเพราะคุณคือที่พึ่งของมันนั้นเอง

8.เดินตามไปทุกที่ ในช่วงที่คุณเดินไปไหนมาไหนแล้วพบว่าสุนัขที่บ้านเดินตามติดไม่หยุด ก็อย่าพึ่งรำคาญพวกมันเลย ด้วยสุนัขนั้นเป็นสัตว์สังคมการได้อยู่ร่วมกันเป็นฝูงหรือเจ้านายจะทำให้พวกมันมีความสุขและเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งด้วย

จากภาษาท่าทาง 8 ท่าของเจ้าตูบคงทำให้คนที่ไม่เคยเลี้ยงสุนัขเกิดความประทับใจไม่น้อย อีกทั้งในส่วนของคนที่เลี้ยงอยู่แล้วอย่างเจ้าของคงได้รู้แล้วว่าสุนัขที่บ้านนั้นรักคุณมากแค่ไหน หากพบพฤติกรรมที่เรากล่าวไปอย่าพึ่งรำคาญเขาหากแสดงออกมากเกินไป เพราะนั้นคือทางเดียวที่มันจะบอกความรู้สึกที่มีต่อเจ้าของได้

อ่านใจสัตว์เลี้ยงด้วยท่าทางของ สุนัข แมว เจ้าของรู้ต้องหลงรัก

แววตาคือการแสดงออกของสุนัขแมวที่ทำให้เจ้าของหลายคนหลงรัก และเมื่อทำผิดก็ใจอ่อนให้อภัยทุกที แต่ความน่ารักไม่ได้มีเพียงเท่านี้สัตว์เลี้ยงทั้งสองสามารถแสดงท่าทางที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่มีต่อเจ้าของ แน่นอนหากคุณได้ทราบถึงความหมายจะต้องหลงรักพวกเขามากกว่าเดิม เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่าท่าทางเหล่านั้นมีความหมายอย่างไรบ้าง

เจ้าเหมียวกับท่าทางการแสดงความรักที่มีต่อเจ้าของ

แสดงความรักด้วยการคาบของมาฝาก เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่ทำเอาเจ้าของบางคนต้องร้องกรี๊ดเพราะบางครั้งคาบตัวอะไรมาก็ไม่รู้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแมวตัวเมีย เพราะมีความเป็นนักล่าสูง จึงมักแสดงความรักด้วยการคาบของมาให้

อ้อนเจ้าของด้วยการคลอเคลีย ซึ่งเป็นสิ่งพฤติกรรมที่แสดงความเป็นเจ้าของ ขณะคลอเคลียมันจะปล่อยกลิ่นให้ติดตัวเจ้าของด้วย

นอนทับเจ้าของและนอนหงาย เป็นพฤติกรรมที่มันกำลังบอกว่ารู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่กับคุณและถือเป็นการบอกรักอีกด้วย

ร้องเหมียว ๆ เบา ๆ มันกำลังสื่อว่ารักคุณมาก ๆ นั่นเอง

ชอบเลียที่ตัวเจ้าของ เป็นการแสดงความรักความห่วงใหญ่

นวดตัวเจ้าของ เป็นการแสดงความรักและคิดถึง หากจะพูดให้เห็นภาพก็เหมือนเจ้าเหมียวในตอนเล็ก ๆ ที่ดูดนมแม่ มักจะนวดเต้านมแม่ไปด้วยนั่นเอง

พฤติกรรมการแสดงความรักที่เรากล่าวถึงนั้น คงทำให้หลายคนเข้าใจเจ้าเหมียวมากขึ้นและจากที่เคยคิดว่าแมวเป็นสัตว์ที่เย็นชา เมินเฉย แท้จริงแล้วเขาก็เป็นสัตว์ขี้อ้อน ต้องการความรักจากเจ้าของเช่นกัน เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจก่อนนั่นเอง

เจ้าตูบกับท่าทางการแสดงความรักที่มีต่อเจ้าของ

มักปลุกเจ้าของในยามเช้า พร้อมกระโจนขึ้นบนเตียงและเลียหน้า หากสุนัขพูดได้คงกำลังบอกคุณว่า “อรุณสวัสดิ์ เจ้านาย คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอหน้ากันตั้งหนึ่งคืน”

มักไปรอหน้าบ้านทุกครั้ง ถือเป็นการแสดงความจงรักภักดีว่าพร้อมที่จะติดตามไปด้วยและมันรู้สึกกังวลที่ต้องห่างคุณ

กระดิกหางเมื่อเจอเจ้าของ สำหรับพฤติกรรมนี้พวกมันจะแสดงออกมาอย่างเกินหน้าเกินตา เหมือนกับว่าไม่ได้เจอกันนานหลายปี ทั้งที่เจอกันทุกวัน

เดินตามไปทุกที่ เป็นการแสดงออกที่บอกว่ารักคุณมาก ๆ

เลียใบหน้า เป็นอีกหนึ่งการแสดงความรัก ความเอาใจใส่ต่อเจ้าของ

นี่ถือเป็นเพียงพฤติกรรมบางส่วนอันน่ารักของ สุนัข แมว เท่านั้น ซึ่งขณะที่คุณกำลังอ่านถึงความหมายท่าทางเหล่านี้ เชื่อว่าหน้าของ สุนัข แมว ที่บ้านต้องลอยมาแน่นอนและหลังจากนี้หากสัตว์เลี้ยงที่บ้านแสดงออกต่อคุณก็อย่าพึ่งได้รำคาญ เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่เขาจะสื่อถึงคุณ เพื่อตอบแทนความรักที่คุณมีต่อเขา

อยากเลี้ยงสุนัขและแมว ต้องทำอย่างไร ให้อยู่ด้วยกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน

หลายบ้านที่อยากเลี้ยงทั้ง สุนัข แมว ด้วยกัน แต่ก็เกิดความกังวลว่าทั้งสองจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะภาพที่เราเห็นบ่อย ๆ คือการต่อสู้ของ หมา แมว เจอหน้ากันแทบไม่ได้เป็นต้องแยกเคี้ยว กางเล็บ เตรียมฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ในบางครั้งรุนแรงถึงขั้นน้องแมวเสียชีวิตเลยล่ะ ทำให้เจ้าของหลายคนเหนื่อยใจไม่น้อย วันนี้เราจึงนำทริกเด็ด ๆ ในการเลี้ยงให้เขาอยู่ด้วยกันอย่างสงบและเป็นเพื่อน พี่น้องกันคล้ายกับว่าคลานออกมาจากท้องเดียวกัน โดยเราจะแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

กรณีแรก คือ นำมาเลี้ยงด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก

ถือเป็นวิธีที่ได้ผลมากทีเดียว เพราะ หมา แมว เมื่อพวกเขายังเล็กจะไม่สามารถแยกออกได้ว่าต่างสปีชีส์ แต่กลับคิดว่าเป็นพี่น้องหรือเพื่อนกัน ควรเลี้ยงในอายุเท่ากันตั้งแต่เกิดหรือ 2-3 เดือนจะดีมาก แบบนี้เจ้าของหายห่วงได้เลย เพราะพวกเขาจะไม่มีทางกัดหรือสู้รบกันแน่นอน เว้นแต่จะเล่นกันแรงมากเกินไปจนทำให้เกิดอาการหงุดหงิด เจ้าของต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดและให้ความรักทั้งสองอย่างเท่าเทียมกัน

กรณีสอง คือ นำมาเลี้ยงตอนที่โตแล้ว

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเลี้ยงหมาหรือแมวก่อนกันก็ตาม มักเจอปัญหาเมื่อนำสัตว์สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกเพิ่ม คือ การฟาดฟันกันไม่เว้นแต่ละวัน จนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องได้รับบาดเจ็บ ส่วนใหญ่น้องแมวจะทนไม่ได้ต้องหนีออกจากบ้าน เป็นแมวหลงทาง ซึ่งน่าสงสารมากทีเดียวหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นและเจ้าของเองก็เสียใจไม่น้อย ฉะนั้นหากต้องการเลี้ยงจริง ๆ เราขอแนะนำให้ทำตามนี้

แบ่งโซนให้ทั้งสองแยกจากกันหรือนำน้องแมวมาเลี้ยงในบ้าน จะทำให้สุนัขไม่กล้ามารังแกและทำให้น้องแมวได้อยู่อย่างสงบ

หากต้องการให้ทั้งสองอยู่ร่วมกันลองเอากรงมาวางไว้ใกล้ ๆ กันเพื่อสร้างความคุ้นเคย พร้อมแสดงความรักอย่างเท่าเทียม

เรื่องกลิ่นกับการเลี้ยงสัตว์ถือว่าเป็นสิ่งที่ใช้ฝึกพวกเขาได้หลากหลายทักษะ เจ้าของลองสร้างความคุ้นเคยให้แก่สุนัข โดยการนำกลิ่นฉี่ของแมวที่ซับด้วยทิชชู่ไปวางในบริเวณของบ้าน เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย ทำแบบนี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน สุนัขจะรู้ว่านี่คือหนึ่งในสมาชิกของบ้าน

อีกหนึ่งวิธีที่เป็นการสร้างความคุ้นเคยคือ เอาที่นอนของน้องหมาและน้องแมวให้นอนสลับกัน ทำแบบนี้ทุกวันเป็นเวลา 14 วัน แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งสองก็จะเริ่มคุ้นเคยกัน

วิธีสุดท้ายง่ายมาก ๆ คือการที่เจ้าของสัมผัสน้องหมาให้กลิ่นติดมือแล้วไปสัมผัสแมว ทำสลับกันแบบนี้จะทำให้ทั้งสองเริ่มคุ้นกลิ่นของกันและกัน

จากทริกทั้งหมดที่เรานำเสนอ ทำให้เจ้าของหลายคนสบายใจขึ้นมาบ้างแล้วว่า หากต้องนำ หมา แมว สัตว์ตัวใดตัวหนึ่งมาเลี้ยงด้วยกัน มีทริกง่าย ๆ ที่ช่วยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างสงบและรักกันดั่งพี่น้อง

ชี้เป้า! ไดร์เป่าขนป้องกันโรคเชื้อราในสุนัขและแมว

Chaolun รุ่น M105

Shernbao รุ่น DHD – 3000F

Minimal Pet รุ่น MP-302

Redminut รุ่น Smart Pet

การทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของ เนื่องจากสุนัขและแมวที่มีออกไปเล่นนอกบ้านสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่เจ้าของได้ การอาบน้ำสุนัขและแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่การอาบน้ำไม่ถูกวิธีสามารถก่อให้เกิดโรคเชื้อราในสุนัขและแมวได้

โรคเชื้อราในสุนัขและแมวเกิดมักมีสาเหตุมาจากการปล่อยให้ขนเปียกชื้นเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดเชื้อราบนผิวและทำให้สุนัข – แมวมีอาการระคายเคืองผิวก่อให้เกิดอาการคัน ขนหลุดร่วงและนำไปสู่ผิวหนังอักเสบจากแผล รวมถึงแพร่กระจายเชื้อรามายังเจ้าของได้

วิธีการรักษาและป้องกันโรคเชื้อราในสุนัขและแมว

พาสุนัขและแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อนำไปตรวจให้ละเอียดว่าจำเป็นต้องรับประทานยารักษาเชื้อราร่วมด้วยหรือไม่

ตัดขนให้สั้น เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายและช่วยลดความชื้นในเส้นขนและทำให้ขนที่เกิดใหม่มีสุขภาพดีขึ้น

เลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของตัวยา เพื่อลดอาการระคายเคืองและกำจัดเชื้อราบริเวณผิวหนัง พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังที่เกิดการอักเสบและบำรุงเส้นขน

เป่าขนทุกครั้งที่อาบน้ำเสร็จ เพื่อไม่ให้เกิดความชื้นสะสมนำไปสู่การเกิดเชื้อราผิวหนัง

5 ไดร์เป่าขนป้องกันโรคเชื้อราในสุนัขและแมว

Chaolun รุ่น M105 คุณสมบัติตัวเครื่องสามารถเป่าขนให้แห้งได้อย่างรวดเร็วภายใน 15 – 20 นาที มีให้เลือกทั้งลมร้อนและลมเย็น รวมถึงสามารถเป่าไล่น้ำได้ ความเร็วลมสูงสุด 65 เมตร/วินาที ความดังของเสียอยู่ที่ประมาณ 60 – 70 เดซิเบล ใช้งานง่าย มีให้เลือก 4 เฉดสี คือ ชมพู ดำ ฟ้าและขาว ราคาประมาณ 2,683 บาท

Shernbao รุ่น DHD – 3000F ไดร์เป่าขนสุนัขและแมวแบบ 2 มอเตอร์ ความแรง 3000 W สามารถทำความเร็วลมได้ 320 CFM เสียงไม่ดังมาก วัดได้ที่ 85 เดซิเบล สามารถปรับระดับความแรงลมและเปลี่ยนเป็นลมอุ่น – ลมร้อนได้ตามความต้องการ มีให้เลือก 3 เฉดสี คือ สีแดง สีส้มและสีม่วง ราคาประมาณ 4,450 – 4,750 บาท

Minimal Pet รุ่น MP-302 ไดร์เป่าขนที่มีคุณสมบัติสามารถใช้งานได้ทั้งแบบเป่าไล่น้ำและแบบเป่าแห้งมาพร้อมหัวแบบแปรงช่วยลดปัญหาเส้นขนพันกัน รวมถึงช่วยให้เป่าแห้งได้เร็วขึ้น สามารถปรับแรงลมได้ 2 ระดับ ราคาประมาณ 1,198 บาท

Redminut รุ่น Smart Pet Blowe อุปกรณ์ช่วยให้การเป่าขนสุนัขและแมวเป็นเรื่องง่าย มีระบบเซนเซอร์ที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิช่วยป้องกันการ Overheat รวมถึงมีระบบฟิลเตอร์ช่วยป้องกันฝุ่นละอองกระจายเวลาเป่าขนสัตว์เลี้ยง ราคาประมาณ 6,900 บาท

ดูแลสุนัขและแมวให้มีสุขภาพร่างกายที่ดี ร่าเริงและสะอาดถูกสุขลักษณะ ทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าอาบน้ำและเป่าขนในราคาแพงอีกต่อไป

ประกันสุนัข-แมวธุรกิจมาแรงคนไม่อยากมีลูก และเหตุผลที่ต้องทำประกันสัตว์เลี้ยง

สำหรับคนยุคปัจจุบันมีแนวโน้มแต่งงานลดลง และนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นลูกหรือเพื่อนมากขึ้น เพื่อคลายเหงา ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงโตอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นคือประกันเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ที่มาช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนความเสี่ยงซึ่งจะเกิดกับสัตว์เลี้ยงของคุณได้ เรามาดูเหตุผลกันดีกว่าว่าทำไมถึงต้องทำประกันให้สัตว์เลี้ยงด้วย

ความเสี่ยงสูง

ต้องเข้าใจก่อนว่าการหาหมอรักษาโรคเกี่ยวกับสุนัขและแมวไม่ได้หาง่ายเหมือนกับรักษาคน เพราะบางชุมชนมีสถานพยาบาลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแค่ 1 แห่ง และโรงพยาบาลของรัฐก็ไม่ได้มีคนรักษาสัตว์เลี้ยงของเราแบบเฉพาะทางด้วย ทำให้เมื่อสุนัขและแมวที่เรารักเจ็บไข้ได้ป่วยต้องหาคลินิกรักษาสัตว์เท่านั้น และค่ารักษาไม่ใช่น้อยเมื่อเทียบกับคนที่มีสิทธิประกันสังคม สิทธิบัตรทอง อีกทั้งโรคเกี่ยวกับสัตว์

เกิดขึ้นง่าย เมื่อเราให้อาหารอันไม่ถูกลักษณะของร่างกายสุนัขและแมว โดยเฉพาะบางคนเข้าใจว่าสุนัขต้องกินกระดูก ที่จริงแล้วสุนัขเลือกรับประทานกระดูกดิบเท่านั้น ถ้าเกิดทานไก่ทอดซึ่งมีกระดูกส่วนแข็งอยู่ เมื่อทานเข้าไปเศษกระดูกจะไปทิ่มแทงกระเพาะอาหาร ที่เห็นว่าสุนัขชอบแทะกระดูกเนื่องจากช่วยฝึกความแข็งแรงของกรามและฟัน ส่วนแมวก็ไม่ควรให้น้ำนมเป็นอาหารแบบที่ในการ์ตูนทำกัน เพราะร่างกายของแมวไม่สามารถย่อยสารอาหารในนมได้

คุ้มครองชีวิตของบุคคลภายนอก

สุนัขและแมววิวัฒนาการมาหลายพันปีก่อนที่จะมาอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้แบบปัจจุบัน ในอดีตสุนัขเป็นเพื่อนรู้ใจของมนุษย์มานานมีความสัมพันธ์แบบต้องพึ่งพากัน กล่าวคือ สุนัขจะเป็นผู้ช่วยของมนุษย์สำหรับการหาอาหารในป่า และแมวเป็นที่นิยมของมนุษย์สำหรับการล่าหนูเพื่อป้องกันความเสียที่จะเกิดขึ้นกับอาหารแห้งทั้งหลาย ดังนั้นด้วยสัญชาตญาณแบบเดิมที่มีความดุร้ายอยู่ในตัว เจ้าของสัตว์เลี้ยงจึงควรทำประกันสัตว์เลี้ยงเพื่อคุ้มครองความเสียหายแก่ชีวิต และร่างกายของบุคคลภายนอกที่เข้ามาในบริเวณเคหสถาน เราพบเห็นได้บ่อยว่าเจ้าของบางคนเลี้ยงสัตว์ไม่เป็น เช่น สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่ต้องการพื้นที่สำหรับการเลี้ยงบริเวณกว้าง แต่เจ้าของเลี้ยงในคอนโดเป็นพื้นที่คับแคบ สุนัขจะเกิดความเครียด และทำร้ายร่างกายของบุคคลในบริเวณใกล้เคียงได้

ช่วยติดตามสัตว์เลี้ยงหาย

ประกันสัตว์เลี้ยงบางบริษัทช่วยออกค่าใช้จ่ายในส่วนของการโฆษณาและโปสเตอร์ เมื่อน้องหมาน้องแมวของเราหนีออกจากบ้าน เนื่องจากสภาพแวดล้อมมีเสียงดังทำให้สัตว์เลี้ยงตกใจ เช่น เสียงเครื่องจักรกำลังก่อสร้าง เสียงฟ้าผ่า และเสียงประทัดในช่วงตรุษจีน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้หากเจ้าของแสดงอาการกลัวและไม่ได้ฝึกให้รับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยวิธีที่เจ้าของฝึกให้สัตว์เลี้ยงไม่กลัว คือ อย่าไปกอดหรือปลอบไม่ให้กลัว แต่ควรทำเหมือนเป็นเรื่องปกติชิวๆ เมื่อฝึกด้วยวิธีนี้ตั้งแต่เด็ก จะช่วยลดอาการกลัวได้

การทำประกันสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้สำหรับครอบครัวที่รักสุนัข-แมวเหมือนลูก ดังนั้นเจ้าของจึงควรมอบสวัสดิการให้แก่สัตว์กลุ่มนี้ ด้วยการให้สวัสดิการเหมือนกับมนุษย์

โรคที่พบบ่อยในสุนัขต้องระวัง 2565

การเลี้ยงสุนัขให้สุขภาพดีได้นั้น เจ้าของต้องใส่ใจดูแลและหมั่นสังเกตความผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้สุนัขป่วยจนเกินเยียวยา หรือหากเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงบางชนิดก็อาจติดต่อไปสู่สัตว์เลี้ยงอื่นในบ้านและเจ้าของได้ด้วย เรามาดูกันว่าโรคที่พบบ่อยในสุนัขที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง

  1. โรคอ้วน – โรคอ้วนพบมากในสุนัขที่เจ้าของให้กินอาหารแบบเดียวกับคน ซึ่งจะมีปริมาณแป้งและไขมันที่สูงกว่าการกินอาหารเม็ดหรืออาหารกระป๋องของสุนัขทั่วไป ทั้งนี้ต้องควบคุมจำนวนมื้อให้เหมาะสมกับช่วงอายุของสุนัขด้วย มิเช่นนั้นจะกลายเป็นโรคอ้วนสังเกตจากพุงที่ใหญ่ และการเดินที่ช้าอุ้ยอ้าย และนำไปสู่การเป็นโรคความดันและไขมันสูงในสุนัขด้วย
  2. โรคพยาธิหนอนหัวใจ – พยาธิหนอนหัวใจนั้นมีพาหะนำโรคที่สำคัญคือ ยุง ดังนั้นต้องวางกรงเลี้ยงสุนัขในจุดที่ไม่เป็นมุมมืดหรือใกล้กับบริเวณน้ำขัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง หากสุนัขติดเชื้อแล้วจะมีอาการซึมไม่ร่าเริง เบื่ออาหาร เหนื่อยหอบง่าย และมีอาการท้องบวม หากนานเข้าพยาธิตัวแก่อาจไปอุดตันตามหลอดเลือดและทำให้เสียชีวิตได้
  3. ฟันผุ – แม้ว่าผู้เป็นเจ้าของส่วนใหญ่จะไม่ได้แปรงฟันให้สุนัข แต่วิธีการง่าย ๆ ในการกำจัดหินปูนและป้องกันฟันผุ ก็คือหมั่นให้สุนัขเคี้ยวขนมหรือของเล่นสำหรับสุนัขที่มีความแข็งพอเหมาะ มีแบรนด์สินค้าสุนัขชั้นนำมากมายที่ออกแบบดีไซน์ออกมาเพื่อตอบโจทย์นี้ มีการพัฒนาสี กลิ่น รส ที่ถูกใจสุนัขส่วนใหญ่ เช่น รสตับ รสเนื้อวัว รสไก่ ฯลฯ นอกจากลดปัญหาฟันผุได้แล้ว ยังช่วยลดปัญหากลิ่นปากอีกด้วย
  4. โรคลำไส้อักเสบ – ปัญหาลำไส้อักเสบเกิดจากเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนในอุจจาระ เมื่อสุนัขไปกินอาหารหรือน้ำจากแหล่งสกปรกที่มีการปนเปื้อนอุจจาระ เชื้อโรคนี้จะเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ตามช่วงอายุที่สัตวแพทย์แนะนำจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด หากติดเชื้อแล้วจะมีอาการซึมลง อาเจียน ถ่ายเป็นมูกเลือดและมีกลิ่นคาวเหม็นมาก หากพบอาการผิดปกติเหล่านี้ต้องรีบพาไปตรวจรักษาโดยทันที
  5. โรคพิษสุนัขบ้า – พิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัส Rabies ที่สามารถติดต่อได้ระหว่างสุนัขและแมว เจ้าของจึงต้องนำสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันไว้เป็นประจำทุกปี เพราะเป็นโรคที่ไม่มียารักษา หากสุนัขติดแล้วก็จะส่งต่อทางน้ำลายไปสู่คนหรือสัตว์ที่โดนกัดได้ด้วย

โรคที่กล่าวมาทั้ง 5 โรคนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด คนที่เลี้ยงสุนัขจึงต้องศึกษาหาข้อมูลทั้งเรื่องของอาหาร ยา วัคซีน ตั้งแต่เริ่มคิดเลี้ยงสุนัข รวมถึงดูแลสุขลักษณะ พื้นที่อยู่อาศัยของสุนัขให้เหมาะสมด้วย จะลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น

อาหารสุนัข แมวกินได้หรือไม่ ? คำถามสุดฮิต !

หากจะกล่าวถึงสัตว์เลี้ยงในปัจจุบัน สุนัขและแมว เป็นสัตว์ที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงไว้ตามบ้าน บางบ้านเลี้ยงสุนัข บางบ้านเลี้ยงแมว ซึ่งการเลี้ยงสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งการเตรียมอาหารมักไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าบางบ้านเลี้ยงสัตว์ทั้ง 2 ชนิดร่วมกัน ส่งผลให้การจัดเตรียมอาหารของสัตว์ทั้ง 2 ชนิดอาจมีความยุ่งยาก เพราะสุนัขสามารถกินได้ทั้งพืชและเนื้อสัตว์ ในขณะที่แมวกินได้แต่เนื้อสัตว์เท่านั้น นั่นเพราะระบบการย่อยในกระเพาะอาหารของสุนัข แมว มีความแตกต่างกัน

หมา กินอาหารแมว ได้ไหม ?

คำตอบคือ ได้ … เพราะสุนัขสามารถกินได้ทั้งพืชและเนื้อสัตว์ ในอาหารแมวมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ จึงทำให้ไม่พบปัญหา แต่ในระยะยาวจะทำให้ไตของสุนัขทำงานผิดปกติ เนื่องจากร่างกายได้รับแต่โปรตีนที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดโรคอ้วน โรคไตและนิ่วในไตได้ เพราะอาหารแมวมีปริมาณของโปรตีนและไขมันอยู่มากนั่นเอง

แมว กินอาหารสุนัขได้ไหม?

ด้วยพฤติกรรมของแมวที่มักจะดมอาหารก่อนกิน หากอาหารสุนัขมีกลิ่นผักมากกว่าเนื้อสัตว์อาจทำให้ไม่ยอมกินหรือกินในปริมาณน้อย แต่ถ้าได้กินติดต่อกันไปนาน ๆ ก็จะทำให้แมวได้รับสารอาหารของแมวไม่ครบ โดยเฉพาะโปรตีนที่แมวต้องการมากกว่าสุนัข หากขาดโปรตีนเป็นระยะเวลานานอาจทำให้แมวร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำและเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่ง่ายขึ้น แมวมีความต้องการทอรีนมากกว่าสุนัข ซึ่งทอรีนเป็นกรดอะมิโนขนิดหนึ่ง ที่มีส่วนช่วยในการดูแลหัวใจ ระบบสืบพันธุ์ และการเจริญเติบโตของแมวให้เป็นปกติ หากแมวขาดทอรีนจะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกายดังกล่าว วิตามิน เอ เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแมว

ด้วยพฤติกรรมของแมวส่วนใหญ่มักออกหากินในเวลากลางคืนและนอนหลับในเวลากลางวัน หากแมวขาดวิตามิน เอ ก็จะทำให้ระบบการมองเห็นมีปัญหา โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ซึ่งหากแมวขาดวิตามิน เอ ถึงขั้นร้ายแรงอาจทำให้เป็นตาบอดกลางคืนได้และทำให้ขนหยาบและแห้ง ส่งผลต่อการเจริญเติบโตได้เช่นกัน

การป้องกันและแก้ไขปัญหา

เมื่อรู้ถึงอาหารสำหรับสุนัขและแมว เจ้าของควรใส่ใจในการให้อาหารของสัตว์เลี้ยงให้ดี ห้ามให้อาหารสลับกันเป็นระยะเวลานาน อาจให้กินได้เพียงบางมื้อเท่านั้น หากไม่สามารถเตรียมอาหารตามที่ต้องการได้ การเลือกใช้อาหารสัตว์สำเร็จรูปที่เป็นอาหารแมวเฉพาะหรืออาหารสุนัขเฉพาะดูจะมีความเหมาะสมมากกว่าการให้กินเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นระยะเวลานานและที่สำคัญห้ามให้อาหารปนกันเป็นระยะเวลานานด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงของท่านอาจเลือกอาหารสำเร็จรูปเฉพาะของสุนัขและแมว เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการของร่างกายและเพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงของคุณด้วย และควรรู้ว่าอาหารหมาแมวอาจไม่ถูกปากเรานักเพราะปรุงรสมาให้เหมาะกับสุนัขและแมว การรับประทานเพื่อประชดผลบอลย้อนหลังที่เชียร์ทีมโปรดแล้วผิดหวังนั้นคงไม่เหมาะแน่ๆ

โรคพิษสุนัขบ้า มหันตภัยร้ายสำหรับคนและสัตว์เลี้ยง

ในอดีตพอเข้าช่วงหน้าร้อน มักจะได้ยินประกาศของกระทรวงสาธารณสุขทางโทรทัศน์หรือไม่ก็เสียงตามสายของเทศบาลหรือ อบต.ในหมู่บ้าน ให้นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีน ให้เฝ้าระวังสุนัขจรจัดที่อาจเป็นต้นตอของโรคพิษสุนัขบ้า และคอยสังเกตอาการของสัตว์เลี้ยง แม้ว่าปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์พัฒนาไปไกล แต่ทว่ายังขาดหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลและเฝ้าระวังโรคดังกล่าวนี้อย่างเป็นระบบ เช่น การทำหมัน ฉีดวัคซีนให้สุนัขจรจัด หรือตามที่สาธารณะต่าง ๆ อย่างเช่น วัดและตลาดสด ดังนั้นเราทุกคนจึงต้องระมัดระวังตนเองและอยู่ในความไม่ประมาท ต่อจากนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้ามาเป็นแนวทางเพื่อให้เกิดความเข้าใจและจะได้ช่วยกันหาทางป้องกันได้อย่างเหมาะสม

โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ เป็นโรคติดเชื้อในระบบประสาทจากสัตว์สู่คน มีอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีการคิดค้นยาเพื่อใช้ในการรักษา จึงมีเพียงการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน โรคพิษสุนัขบ้า เท่านั้น โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งทำอันตรายต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น สมอง ไขสันหลัง การเคลื่อนไหว และอวัยวะสัมผัสทั้ง 5 พบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว หมู หนู วัว ลิง ค้างคาว กระรอก กระต่าย ในประเทศไทยพบในสุนัขกว่า 95% รองลงมาพบในแมวและวัว ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงสามารถติดเชื้อได้โดยการสัมผัสเชื้อไวรัสจากน้ำลายของสัตว์ที่เป็นโรค ผ่านทางบาดแผล และเยื่อเมือกในตาและปาก ที่ถูกกัด ข่วน หรือ เลีย เป็นต้น

อาการที่พบในคน หากติดเชื้อพิษสุนัขบ้า

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะแสดงอาการในช่วง 3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือนขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ถูกกัด ขนาด และความลึกของบาดแผล ในระยะแรก ผู้ป่วยจะมีอาการเป็นไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน นอนไม่หลับ ปวดเมื่อยตามตัว และอาจมีอาการเจ็บ เสียวแปล๊บ หรือคันอย่างมากในบริเวณที่ถูกกัด ระยะที่สองเริ่มมีอาการทางสมอง ผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย กลืนลำบาก รวมถึงอาการกลัวน้ำ มีอาการชักและเป็นอัมพาต ระยะสุดท้าย ผู้ป่วยจะเสียชีวิตอย่างกระทันหันด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว

สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จะมีอาการที่เห็นได้ชัดเจนคือ หงุดหงิด ดุร้าย และก้าวร้าวกว่าปกติ สลับกับอาการเซื่องซึม ลิ้นห้อย น้ำลายไหล ขากรรไกรค้าง กลืนอาหารลำบาก เสียงร้องเปลี่ยน เริ่มมีอาการชักกระตุกและเดินไม่สะดวก ควรรีบนำใส่กรง ไปพบสัตว์แพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยทันที และกักบริเวณภายในบ้านอย่างน้อยประมาณ 45 วัน

วิธีปฏิบัติเมื่อถูกสุนัขหรือสัตว์อื่นกัด

  1. รีบล้างบาดแผลให้เร็วที่สุด ด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาด อย่างน้อย 15 นาที แล้วเช็ดแผลให้แห้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น ยาโพวิโดนไอโอดีนลงในบาดแผล เพราะจะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคแต่ไม่ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อหรือผิวหนัง เป็นต้น
  2. สังเกตอาการและลักษณะของสัตว์ที่กัด จากนั้นสืบหาเจ้าของ เพื่อสอบถามประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ภายในเวลา 10 วัน ถ้าสุนัขตายให้รีบนำซากไปให้แพทย์ตรวจทันที
  3. รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมนำสมุดวัคซีนหรือประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและบาดทะยักไปด้วย (ถ้ามี) เพื่อประกอบการพิจารณาของแพทย์ 

โรคพิษสุนัขบ้าพบได้ตลอดทั้งปี ไม่เฉพาะแต่ในช่วงหน้าร้อน ทางที่ดีจึงควรนำ สุนัข แมว สัตว์เลี้ยง ไปฉีดวัควีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ครบ 2 ครั้งในขวบปีแรก ระหว่าง อายุ 3 เดือน และ 6 เดือน จากนั้นฉีดกระตุ้นซ้ำตามกำหนดเวลาในทุก ๆ ปี และหลีกเลี่ยงไม่ให้สัตว์เลี้ยงของเราไปคลุกคลีกับสุนัขหรือแมวอื่น ๆ นอกบ้าน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง ตัวคุณเอง และสวัสดิภาพของคนในชุมชนอีกด้วย 

หากต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าสามารถติดต่อไปได้ที่ กรมควบคุมโรค สายด่วน 1422, สำนักโรคติดต่อทั่วไป โทร. 0-2590-3177-78, กรมปศุสัตว์ โทร. 0-2653-4444 ต่อ 4161-2, สถานเสาวภา สภากาชาดไทย โทร. 0-2252-0161-7, สำนักงานสาธารณะสุขและปศุสัตว์ในระดับอำเภอและจังหวัด ตลอดจนโรงพยาบาลสัตว์ทุกแห่ง

ข้อดีของการให้ลูกเลี้ยง สุนัข หรือ แมว ในบ้าน

การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว เป็นสิ่งที่นิยมในหลายครอบครัวทั่วโลก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสัตว์สองพันธุ์นี้ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงดูน้อย ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก และมีอุปนิสัยทั่วไปคลุกคลีเข้ากับคนง่าย นอกจากนี้ ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่จะทำให้ครอบครัวที่มีบุตรหลานวัยเด็กและวัยรุ่นได้รับประโยชน์จากการเลี้ยงสัตว์ด้วย การที่มีสุนัข แมว ในบ้าน จะทำให้เด็กสนใจกิจกรรมที่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก อย่างพุดเดิ้ล ชิวาวา บีเกิล ที่มีความร่าเริงและชอบเรียนรู้ ก็จะทำให้เด็กมีการกระตือรือร้นที่จะเล่นสนุก พาสุนัขไปเดินออกกำลังกายด้วยกันบ่อย ๆ ส่วนแมวก็มีของเล่นแมวที่เด็ก ๆ สามารถร่วมสนุกได้หลากหลายชนิดเช่นกัน

หากบุตรหลานอยากได้สัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้คุณได้สอนเรื่องความรับผิดชอบให้ด้วย เพราะการเลี้ยงสุนัขและแมว ต้องใส่ใจตั้งแต่การสอนให้ถ่ายเป็นที่ การเลือกอาหารสัตว์ การดูแลกำจัดมูลสัตว์ การกำจัดขนสัตว์ที่ติดตามเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงการสังเกตอาการของสุนัขและแมวเมื่อมีความเจ็บป่วย เพื่อช่วยกันดูแลตามเหมาะสม เหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้เด็กมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น และเพิ่มศักยภาพให้บุตรหลานดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้นด้วย

และอีก 1 ปัญหาของเด็กสมัยใหม่คือการติดเกม การมีปฏิสัมพันธ์บ่อยครั้งระหว่างเด็กกับสุนัขและแมว จะเท่ากับลดความเหงา ความเบื่อกิจวัตรเดิม ๆ จะทำให้ลดความเสี่ยงที่บุตรหลานของท่านจะติดเกมส์ในโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้อย่างมาก สุนัขและแมวบางสายพันธุ์จะชอบมาคลอเคลียกับเจ้าของ หากคุณต้องการประโยชน์ด้านนี้อย่างมาก ก็ต้องเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม ในทางการแพทย์ มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่รู้สึกเครียดหรือหงุดหงิด เมื่อได้เล่นกับสัตว์เลี้ยงจะรู้สึกดีขึ้น และลดระดับฮอร์โมนความเครียดได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกัน ในกรณีของเด็กและวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่กำลังปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่ โรงเรียนใหม่ วิชาการเรียนใหม่ ๆ ก็มีผลทางบวกเช่นกัน หากมีสัตว์เลี้ยงอยู่เป็นเพื่อน ก็จะช่วยให้คลายความเหงา ความเศร้า ความเครียดได้อย่างมาก

การมีสัตว์เลี้ยงอย่าง สุนัข แมว ในครอบครัว จะทำให้บุตรหลานได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสังคมได้หลายด้าน และยังมีผลดีต่อสุขภาพกายและใจของเด็กด้วย