รู้หรือไม่ พิพิธภัณฑ์สุนัขและแมวมีอยู่ทั่วโลก

สุนัขและแมวอยู่ร่วมกับมนุษย์มานานหลายศตวรรษ เป็นทั้งเพื่อน เป็นผู้อารักขาป้องกันและเป็นที่รักของผู้เป็นเจ้าของ คนส่วนใหญ่จะอารมณ์ดีเวลาเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเลื่อนดูภาพสุนัขและแมวที่น่ารักในเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรม ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของคนรักสัตว์อาจทวีคูณมากกว่าเดิมหากคุณได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์เลี้ยงที่มีอยู่มากมายทั่วโลก เป็นสถานที่ที่ควรแวะเข้าไปเยี่ยมชมสักครั้ง สุนัขและแมวเป็นสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักของคนทั่วโลก จึงไม่แปลกใจที่มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับสัตว์เลี้ยงแสนรักของตน

พิพิธภัณฑ์สัตว์สัตว์เลี้ยง ที่คุณอาจจะไม่รู้จัก

พิพิธภัณฑ์หมาและแมวอย่างน้อย 17 แห่งกระจายอยู่ทั่วโลกตั้งแต่รัฐมิสซูรีทางตอนกลางของสหรัฐอเมริกาไปยังมาเลเซียไปจนถึงเมืองมินสค์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเบลารุส หนึ่งในนั้นคือ “Ernest Hemingway Home And Museum” เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวสัตว์เลี้ยงของนักเขียนผู้เป็นตำนาน “Ernest Hemingway” ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักแมวมาก ในขณะที่เขาไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ยังสามารถเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แมวของเฮมมิงเวย์ได้ที่บ้านเก่าของเขาในเมืองคีย์ เวสต์ รัฐฟลอริด้า ที่นี่เลี้ยงแมวไว้ประมาณ 40-50 ตัวเห็นได้จะ ล้วนเป็นลูกหลานของเจ้าเหมียวตัวโปรดที่นักประพันธ์เลี้ยงไว้สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่

ต่อไปเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์เลี้ยง “Presidential Pet Museum” ความหมายตรงตามชื่อคือสัตว์เลี้ยงของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐนั่นเอง ทุกสิ่งในพิพิธภัณฑ์อุทิศให้กับสัตว์เลี้ยงของผู้นำเกือบทุกคนในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ขณะนี้พิพิธภัณฑ์สัตว์เลี้ยงของประธานาธิบดีปิดปรับปรุง แต่คุณสามารถสอดส่องดูสัตว์เลี้ยงของอดีตประธานาธิบดีทุกท่านได้ในเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ ส่วนผู้นำสหรัฐคนปัจจุบันข่าวว่ายังไม่มีสัตว์เลี้ยงในสังกัดในขณะนี้

ใกล้บ้านเราหน่อยก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ Kuching Cat ในเมืองกูชิงซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ในเกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซีย คำว่า Kuching แปลว่าแมวในภาษามาเลย์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีสิ่งประดิษฐ์เกี่ยวกับแมวมากกว่า 2,000 ชิ้นย้อนหลังไปถึง 5,000 ปี แสดงให้เห็นว่าเมืองนี้มีความรักความผูกพันกับแมวมาก คนรักแมวไปเที่ยวแล้วไม่ผิดหวัง อีกแห่งที่คล้ายกันคือพิพิธภัณฑ์ Maneki Neko หรือแมวนำโชค มีอยู่ 2 แห่งในญี่ปุ่นรวมทั้งอีกแห่งในเมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐ พิพิธภัณฑ์ล้นไปด้วยตุ๊กตาและเครื่องรางรูปแมวให้ชื่นชมหรือซื้อนำกลับบ้านไปพร้อมกับคุณเพื่อให้แมวโชคดีอยู่ใกล้กับหัวใจเสมอ

คุยเรื่องพิพิธภัณฑ์สุนัขกันบ้าง “Dog Collar Museum” เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสุนัขล้วนๆ ตั้งอยู่ที่ ปราสาทลีดส์ในเมืองเคนท์ ประเทศอังกฤษ เป็นแหล่งสะสมปลอกคอสุนัขจากศตวรรษที่ 16 ถึง 19 คนมาเที่ยวกันจำนวนมากก็เพื่อดูปลอกคอสุนัขนี่เอง ต่อไปเป็นพิพิธภัณฑ์สุนัขในสหรัฐชื่อว่า “American Kennel Club Museum Of The Dog” ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี่ ซึ่งกำลังจะย้ายไปนิวยอร์ก ซิตี้ เร็วๆ นี้ ผู้ที่ชื่นชอบสุนัขจากทั่วโลกจะได้สัมผัสถึงความรักความเข้าใจอันลึกซึ้งระหว่างเจ้าของและสุนัขอันเป็นที่รัก นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมให้เจ้าของพาสุนัขไปร่วมงานด้วยในช่วงบ่ายวันสุดสัปดาห์ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม เห็นแล้วคุณจะเข้าใจว่าความรักความผูกพันทำให้สุนัขและกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวได้อย่างไร

รู้หรือไม่ พิพิธภัณฑ์สุนัขและแมวมีอยู่ทั่วโลก

เจ้าตูบและเหมียวตัวน้อย ที่คอยให้รู้สึกหลงรัก

ใครก็ตามที่มีอาการเวลามองเห็นสัตว์เลี้ยงสุนัขหรือว่าเจ้าแมวเหมียว แล้วเกิดอาการหลงรักอยากจะเข้าไปลูบหัว จับตัว ดึงขนมันเล่น หรืออุ้มมันขึ้นมาโอบกอด นั่นแปลว่าคุณกำลังเข้าข่ายเป็นทาสหมาทาสแมวเรียบร้อยแล้ว ทำยังไงได้ล่ะก็ในเมื่อมันน่ารักซะขนาดนี้ ทั้งขี้เล่นแสนรู้ แถมแสบในบางเวลาอีกต่างหาก ทำให้บ้านเรานิยมเลี้ยงสุนัขและเลี้ยงแมวกันมากหรือเป็นอันดับต้นๆของความนิยมในการเลี้ยงสัตว์เลยก็ว่าได้

ส่วนมากร้อยละ 95 สุนัขที่คนเลี้ยงจะไม่ค่อยมีพิษภัยอะไร แต่ก็ยังมีอยู่บ้างที่บ่อยครั้งจะเห็นข่าวน้าเหน่งว่าสุนัขได้ทำร้ายเด็ก หรือทำร้ายคนที่เดินสัญจรไปมา มันขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณของมันส่วนนึง แล้วก็การเลี้ยงดูจากเจ้าของด้วยอีกส่วนหนึ่ง หากเราคิดจะดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างเจ้าตูบ เราก็ควรจะฝึกมันให้เชื่อง ไม่ให้มันเอาไปทำร้ายคนอื่นรอบข้างเพราะมันคือการสร้างความเดือดร้อนให้กับเขาเหล่านั้น ส่วนเจ้าแมวตัวน้อยนี้อาจจะออกฤทธิ์เดชกับผู้คนได้ลำบาหน่อย ด้วยกำลังและขนาดตัวมันต่างกับหมาคนละฟ้ากับเหวเลย ไม่ค่อยมีแมวพันธุ์ไหนที่ตัวใหญ่เท่าหมาบางแก้วหรือหมาล็อตไวเลอร์ นอกจากเป็นแมวป่า แมวสงวน

ศึกษานิสัยของสัตว์เลี้ยงคู่ใจ

สำหรับคนที่ชอบในการเลี้ยงสุนัขหรือเลี้ยงแมว มาคอยแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับนิสัย เกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่เราชื่นชอบ เพื่อหาคำตอบว่ากิริยาแบบนี้ มันทำแล้วต้องการอะไรจากเรา ไม่ว่าจะเป็นการยืนสองขา การเอาหัวมันมาชนอยู่บ่อยครั้ง หรือการนอนหงายยกขาขึ้น และอีกหลายท่า บางคนอาจจะไม่เข้าใจว่ามันต้องการสื่ออะไร ยิ่งถ้าเป็นคนที่เลี้ยงระบบปิดแล้วไม่อยากรับศึกหนักเรื่องของเสียจากสัตว์เลี้ยงตัวโปรด จำเป็นจะต้องรู้จักการเรียนรู้พฤติกรรมของเจ้าสัตว์เลี้ยงเวลาที่มันรู้สึกปวดท้อง ต้องการจะถ่ายของเสียออกจากร่างกาย หากเราไม่รู้ รับรองได้ว่าในบ้านของเราคงจะเหม็นกลิ่นอึหมาแมวกันเต็มที่และบ่อยครั้งอย่างแน่นอน เพราะมันถูกเลี้ยงระบบปิดทำให้ออกมาขับถ่ายภายนอกไม่ได้

คิดจะเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว ต้องใส่ใจในสิ่งที่มันแสดงออกด้วยนะ…

แมวแสนรู้